พล.ต.ต.ประสพโชค นาย ชณทัต และเลขานุการบริหารหอการค้า ไทย-มัลดีฟส์ พร้อมคณะ เข้าพบกราบสักการะ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และ เลขานุการ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
เพื่อปรึกษาแก้ไขปัญหาและวางแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยา ผู้ป่วยและผู้ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 ตาม พระดำริ“สมเด็จพระสังฆราช”
พล.ต.ต.ประสพโชค พร้อมมูล ประธานคณะกรรมการวิสามัญแก้ไขปัญหาโควิด 19 สภา กทม. นาย ชณทัต ปัทะมะภูวดล อนุกรรมการสภา กทม.และเลขานุการบริหารหอการค้า ไทย-มัลดีฟส์ พร้อมคณะ เข้าพบกราบสักการะ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และ เลขานุการ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
เพื่อปรึกษาแก้ไขปัญหาและวางแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยา ผู้ป่วยและผู้ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 ตาม พระดำริ“สมเด็จพระสังฆราช” ที่ให้วัดที่มีศักยภาพร่วมมือกับหน่วยงานราชการในการช่วยเหลือประชาชน ในหนังสือระบุว่า ด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มีความรุนแรงมากขึ้นอีกระลอก ก่อให้เกิดความเดือดร้อนของประชาชนอย่างกว้างขวาง สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงติดตามข่าวสารมาโดยตลอด พร้อมประทานพระดำริว่า วัดหลายแห่งในประเทศไทยมีอาคารสถานที่ โรงครัว อุปกรณ์ บุคลากร หรือปัจจัยอื่น ซึ่งอาจช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการบรรเทาความเดือดร้อนในด้านต่างๆ เช่น การจัดเตรียมอาหาร การตั้งโรงพยาบาลสนาม การบริจาควัตถุปัจจัย หรือการเอื้อเฟื้อพื้นที่สำหรับบริหารจัดการด้านต่างๆได้ จึงขอให้คณะสงฆ์และวัดที่มีศักยภาพ ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ตามที่ได้รับการร้องขอ ตามที่ได้ประสานความเข้าใจร่วมกันกับชุมชนแล้ว และตามกำลังความสามารถ เพื่อประโยชน์เกื้อกูลด้านสาธารณสงเคราะห์ อันเป็นหนึ่งในบทบาทหน้าที่สำคัญของคณะสงฆ์ต่อไป ทั้งนี้ ให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านต่างๆ ของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และของทางราชการอย่างเคร่งครัด
โอกาสนี้สมเด็จพระสังฆราช โปรดให้เชิญรับสั่งประทานพรและกำลังใจแก่แพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัครสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน จิตอาสา และผู้ทุ่มเทเสียสละสรรพกำลังเพื่อบำบัด บรรเทาความทุกข์ยากของประชาชนทุกภาคส่วน ให้ประสบสวัสดิภาพ และอิ่มเอิบในกุศลจริยาซึ่งได้บำเพ็ญ อันจักเป็นพลังสร้างสรรค์ประโยชน์สุขส่วนรวมให้ทวีคูณยิ่งขึ้นในสังคมไทยสืบไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น