วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ฉายาตำรวจแห่งปี 63 “บิ๊กปั๊ด” ฉายา “ผบ.หลบฉาก” รองดํารงศักดิ์ ซิว “เด่น เป็นงาน” ภัคพงศ์-ผบช.น. “นายพล (ตีน) ตุ๊กแก” กรไชย “แจง 5 G” รองจิรสันต์ “กูรูทางเลี่ยง”

 ฉายาตำรวจแห่งปี 63 

“บิ๊กปั๊ด” ฉายา “ผบ.หลบฉาก” รองดํารงศักดิ์ ซิว “เด่น เป็นงาน” ภัคพงศ์-ผบช.น. “นายพล (ตีน) ตุ๊กแก” กรไชย “แจง 5 G” รองจิรสันต์ “กูรูทางเลี่ยง”



วันที่ 23 ธ.ค.63 ที่ศูนย์ปฏิบัติการสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมฯ นายสมชาย จรรยา รองนายกสมาคมฯ นายสุชัยพงษ์ เพียรชอบ ประธานที่ปรึกษาฯ พร้อมด้วยตัวแทนจากสื่อมวลชนแขนงต่างๆร่วมกันคัดเลือกและพิจารณาตั้งฉายาตำรวจประจำปี 2563 จำนวน 11 นาย ประกอบด้วย



พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฉายา “ผบ.หลบฉาก” เป็นนายตำรวจมากฝีมือ การก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งสูงสุดขององค์กร ในห้วงที่ผ่านมายังไม่ค่อยเห็นการชี้แจงในคดีต่างๆ และคอยหลบการให้สัมภาษณ์จากสื่อมวลชน มีเพียงมอบหมายให้ทีมงานโฆษกชี้แจงเท่านั้น จึงเป็นที่มาฉายา “ผบ.หลบฉาก”



พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฉายา “เด่น เป็นงาน” เป็นอีกหนึ่งนายพลตำรวจที่มีบุคลิกสุขุมนุ่มลึก บวกกับความสามารถ เป็นที่ไว้วางใจมอบหมายงานสำคัญ ทั้งคดีฉ้อโกงเงินของรัฐ จากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ,ทลายเครือข่ายพนันออนไลน์ เรียกได้ว่า มอบหมายงานสิ่งใดไม่ผิดหวัง จึงได้รับฉายา “เด่น เป็นงาน”



พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ฉายา “นายพล (ตีน) ตุ๊กแก” จากเหตุการณ์กราดยิง 4 ศพในบ่อนพระราม 3 สร้างแรงสั่นสะเทือนเก้าอี้ น.1 เป็นอย่างมาก ถึงกับขีดเส้นตาย 3 วัน ทำความจริงให้ปรากฏ ท่ามกลางกระแสลือสะพัด การปรับบัญชีเปลี่ยนตัว “ผบช.น.” จนแล้วจนรอดก็พ้นมรสุมมาได้ จึงเป็นที่มาฉายา “นายพล(ตีน)ตุ๊กแก”



พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ฉายา “แจง 5 G” นายตำรวจคนแรกขององค์กรที่ได้รับความไว้วางใจให้มากุมบังเหียน “บช.ไซเบอร์” ซึ่งเป็นหน่วยงานใหม่ถอดด้ามและเป็นที่คาดหวังของประชาชน ในการปราบปรามอาชญากรรมโลกโซเบอร์ เปรียบเสมือนสัญญาณ 5 G ที่รู้ว่าสัญญาณดีแต่ยังมาไม่ถึง จึงได้ฉายา “แจง 5 G”


พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฉายา “นายพลขาลุย” เมื่อครั้งเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง นำหน่วย “นปพ.ภ.3” บุกเข้า “ห้างเทอมินอลวัน” เพื่อให้การช่วยเหลือเหยื่อที่ถูก “พลทหารคลั่ง” จับเป็นตัวประกัน จนสามารถช่วยเหลือตัวประกันออกมาได้อย่างได้อย่างปลอดภัย 


พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ฉายา “ต่อ เหนือเมฆ” เป็นนายตำรวจที่ประชาชนรู้จัก ทั้งนักบู๊และนักบุญ แล้วยังผลักดันการฝึกอบรมทั้งการ “ยิงปืน-โดดร่ม”จึงได้ฉายา “ต่อ เหนือเมฆ” 


พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ฉายา “เปาบุ้นจิ้นหน้าขาว” ห้วงการชุมนุมทางการเมือง จะปรากฏภาพในการเจรจาบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ฝ่าฝืนการชุมนุมเปรียบเสมือน “เปาบุ้นจิ้น” แต่ด้วยรูปลักษณ์นายตำรวจรูปหล่อหน้าขาว จึงได้ฉายา “เปาบุ้นจิ้นหน้าขาว”


พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ฉายา “กูรูทางเลี่ยง” มีผลงานการแก้ไขปัญหาการจราจรที่เข้าขั้นจลาจล แม้จะก้าวขึ้นมาเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังคงได้รับความไว้วางใจให้กำกับดูแลงานจราจร แม้ม็อบปิดถนนส่งผลให้การจราจรติดขัด ท่านยังเป็นผู้ให้คำแนะนำข้อมูลข่าวสารแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง จึงได้ฉายา “กูรูทางเลี่ยง”


พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางฉายา “มือปราบคดีดัง” มีผลงานโดดเด่นต่อเนื่อง ตั้งแต่เป็นผู้บังคับการกองปราบปราม ทำคดีสำคัญหลายคดี อาทิ กราดยิงที่โคราช ,คดีฆ่าเสี่ยชูวงษ์  จนได้รับฉายา “มือปราบคดีดัง”


พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผู้บังคับการสืบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ฉายา “มือปราบเฟกนิวส์” และยังสวมหมวกอีกใบเป็นหัวหน้าชุดประสานความร่วมมือกับศูนย์ต่อต้าน “ข่าวปลอม” (Anti-Fake News Center) ลุยปราบปรามผู้โพสต์ข่าวปลอม และข่าวบิดเบือนจากข้อเท็จจริงได้หลายร้อยคดี จึงได้ฉายา “มือปราบเฟกนิวส์”


พล.ต.ต.รณกร ฤทธิรงค์ ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว 2 ฉายา “ผู้การกรุแตก” เคยถูกตั้งกรรมการสืบสวนและให้มาช่วยที่ ศปก.ภ.3 ถึงการใช้วาจาไม่สุภาพต่อเจ้าหน้าที่จุดคัดกรองโควิด ที่ท่าอากาศยาน อุบลราชธานี ต่อมาดำรงตำแหน่งผู้การตำรวจท่องเที่ยว 2 ถูกตั้งกรรมสอบสวน กรณีสถานประกอบการในอีสานใต้ร้อง ถูก “ชุดเฉพาะกิจ” รีดไถ จึงได้ฉายา “ผู้การกรุแตก”


นายไพโรจน์ กล่าวว่า การตั้งฉายาตำรวจประจำปี 2563 มาจากที่สื่อมวลชนสายอาชญากรรม ที่ทำงานใกล้ชิดกับแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดปีที่ผ่านมาได้เฝ้าติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนที่จะนำเสนอผลงานสู่สายตาประชาชน 


สำหรับเกณฑ์การตั้งฉายา ได้มีการประชุมร่วมกับตัวแทนสื่อมวลชนจากสังกัดต่างๆ เสนอรายชื่อนายตำรวจเข้ามา และทำการคัดเลือกเหลือเพียง 11 นาย 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น