เปิดวิสัยทัศน์ "วุฒิชาติ เกรียงเกษร" จากนักธุรกิจจิตอาสาสู่สนามการเมือง กับภารกิจพลิกโฉมเชียงรายภายใต้ธง "พรรคกล้าธรรม"
"พรรคกล้าธรรม" เปิดตัว นายวุฒิชาติ เกรียงเกษร หรือ "เสี่ยหนุ่ม" เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.เชียงราย หนึ่งในสนามเลือกตั้งที่แข่งขันดุเดือดที่สุด หลังพื้นที่นี้ถูกพรรคอนาคตใหม่หรือพรรคประชาชนในปัจจุบัน ครองเก้าอี้ต่อเนื่อง ขณะที่พรรคเพื่อไทยมีฐานคะแนนสูสีไล่เลี่ยกันเพียงหลักพันคะแนน
นายวุฒิชาติ ไม่ใช่นักการเมืองสายเลือดเก่า แต่เป็นนักธุรกิจและจิตอาสาโดยแท้ มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านป่าบง ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย บิดามารดาเป็นข้าราชการครู ไม่เคยคลุกคลีการเมืองมาก่อน เริ่มทำธุรกิจค้าข้าวและข้าวโพดตั้งแต่อายุ 18 ปี ก่อนจบการศึกษาด้านบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยพะเยา
เมื่อประกอบธุรกิจจนสามารถตั้งตัวได้ นายวุฒิชาติก็หันมาทำงานจิตอาสาเต็มตัว เป็นกรรมการ กต.ตร. หลายโรงพัก อาสากู้ภัยสมาคมศิริกรณ์เชียงรายฯ จนได้รับแต่งตั้งเป็นอุปนายก และดำรงตำแหน่งนายกสโมสรไลออนส์เชียงราย มีบทบาทช่วยเหลือประชาชนในเหตุภัยพิบัติหลายครั้ง ทั้งเหตุถ้ำหลวง น้ำท่วมใหญ่ในอำเภอเทิงและอำเภอแม่สาย รวมถึงน้ำท่วมแม่น้ำกกที่กระทบบ้านของตนเอง ซึ่งในตอนนั้นก็ได้เปิดพื้นที่เป็นศูนย์ช่วยเหลือประชาชนต่อเนื่องนานกว่า 1 เดือน
นายวุฒิชาติ ระบุว่า จากประสบการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พบว่าอาสาสมัครเป็นหนึ่งในกำลังหลัก แต่ยังประสบปัญหาเพราะไม่สามารถทำงานช่วยเหลือผู้เดือดร้อนได้อย่างเต็มที่ จึงเชื่อว่าหากได้ทำงานในระบบการเมือง จะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้มากกว่านี้
ในการเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงราย เขต 1 นายวุฒิชาติ เกรียงเกษร หรือที่รู้จักกันในนาม "เสี่ยหนุ่ม" ได้เปิดเผยถึงแรงบันดาลใจและอุดมการณ์ทางการเมืองในการตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งในนาม "พรรคกล้าธรรม" โดยชูจุดเด่นเรื่องความมุ่งมั่นตั้งใจจริง ประสบการณ์จากภาคปฏิบัติ และความเป็นอิสระในการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน
นายวุฒิชาติ เปิดเผยว่า จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยได้เห็นการทำงานเชิงรุกของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่า ที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรม ทั้งการนำเครื่องจักรหนักเข้าพื้นที่และการตั้งโรงทาน
นอกจากนี้ นายวุฒิชาติยังประทับใจในโมเดลการพัฒนาจังหวัดพะเยา ที่มีความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว จึงมีความมุ่งหวังที่จะเห็น จ.เชียงราย มีการรวมพลังเพื่อพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน โดยไม่ต้องขึ้นตรงกับ "บ้านใหญ่" หรือขั้วอำนาจเดิม แต่ต้องการให้เกิดการรวมตัวของคนเชียงรายเพื่อช่วยเหลือและพัฒนาจังหวัดอย่างแท้จริง
สำหรับชื่อพรรค "กล้าธรรม" นายวุฒิชาติได้ตีความหมายที่สะท้อนถึงตัวตนและหลักการดำเนินชีวิตของตนเองใน 3 มิติ ได้แก่ 1.ธรรมชาติ เปรียบเสมือนประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านร้อนผ่านหนาวในแวดวงธุรกิจและการใช้ชีวิตอย่างโชกโชนในวัย 36 ปี ซึ่งเข้าใจสัจธรรมของโลก 2.ธรรมะ คือความถูกต้องและจริยธรรม 3.ความยุติธรรม คือสิ่งที่ได้รับจากพรรคกล้าธรรม ที่ให้โอกาสคนทำงานจริงได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยไม่ได้ตัดสินจากโปรไฟล์ทางการเมืองที่หรูหรา แต่มองที่ "หัวใจ" และความตั้งใจที่จะช่วยเหลือประชาชน
นายวุฒิชาติ เน้นย้ำว่า ตนเองต้องการเข้าไปทำหน้าที่เป็น "ตัวแทนวิชาชีพ" ในสภาฯ เนื่องจากมีประสบการณ์จริงในภาคเกษตรกรรม (รับซื้อพืชไร่ ข้าวเปลือก ข้าวโพด) มาตั้งแต่อายุ 18 ปี ทำให้เข้าใจโครงสร้างปัญหาตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ ซึ่งแตกต่างจากนักการเมืองสายวิชาการทั่วไป โดยมุ่งหวังจะนำความจริงและปัญหาปากท้องของเกษตรกรไปสะท้อนและแก้ไขในระดับนโยบาย เพื่อให้ราคาสินค้าเกษตรมีความเป็นธรรมและยั่งยืน
แม้จะต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่มีฐานเสียงเดิมหรือประสบการณ์ทางการเมือง แต่นายวุฒิชาติแสดงความมั่นใจเต็มร้อย โดยระบุว่าจุดแข็งของตนคือ "ความสดใหม่และมือสะอาด" การไม่มีฐานเสียงจัดตั้งแบบเก่าคือข้อดี เพราะมาด้วยความดีและความตั้งใจจริง "เครือข่ายกัลยาณมิตร" ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มกู้ภัย จิตอาสา และเครือข่ายนักธุรกิจใน จ.เชียงราย ที่เห็นผลงานการช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด "ความเป็นอิสระ" การตัดสินใจทุกอย่างจบที่ตนเอง ไม่ต้องรอกระบวนการที่ยุ่งยาก หรืออยู่ภายใต้อาณัติของผู้มีอิทธิพลหรือครอบครัว ทำให้การทำงานมีความคล่องตัวและรวดเร็ว
นายวุฒิชาติ ทิ้งท้ายว่า การลงสมัครครั้งนี้ไม่ได้มาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ เพราะที่ผ่านมาได้ใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัวในการช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด แต่ต้องการนำ "ตำแหน่ง" มาเป็นเครื่องมือในการช่วยเหลือประชาชนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในวัย 36 ปี ซึ่งถือเป็นวัยที่มีความพร้อมทั้งวุฒิภาวะ พละกำลัง และความมุ่งมั่น จึงขออาสาเป็นทางเลือกใหม่ให้ชาวเชียงราย ได้พิสูจน์ฝีมือของคนทำงานที่ "ติดดิน เข้าถึงง่าย และทำจริง"
สำหรับเขต 1 เชียงราย ยังมี นายชิตวัน ชินอนุวัฒน์ จากพรรคประชาชน อดีต ส.ส. คนล่าสุด และ ร.ต.อ.ดร.ธนรัช จงสุทธานามณี ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ร่วมชิงชัย โดยมีรายงานว่าพรรคกล้าธรรมเคยถูกจับตาจากบุคคลการเมืองชื่อดังหลายราย ก่อนผู้บริหารพรรคตัดสินใจเลือกนายวุฒิชาติเป็นผู้สมัครในที่สุด
ขอขอบคุณ
พ.ต.ท.ฉันทฤทธิ์ เหล่าไพโรจน์จารีย์
อดีต รอง ผกก.ป.สภ.เมืองเชียงราย
สนับสนุนข้อมูลข่าวสาร



































ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น