เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รองผบช.ภ.4 พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 พ.ต.ท.เขมรินทร์ พิศมัย รองผกก.สน.ห้วยขวาง พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิรัตน์ รองผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.นฤวัต พุทธวิโร สว.งานสายตรวจ 1 นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี 1 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายพิชัย สุวรรณกิจบริหาร. ผู้อำนวยการสำนักกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม สนธิกำลัง พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.สภ.ภูผาม่าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย ผกก.สภ.บ้านเป็ด พ.ต.ท.ธนารัตน์ มีทองหลาง รองผกก.สส.สภ.ชนบท และเจ้าหน้าที่ศปอส.ตร. ตร.บก.ภ.จว.สงขลา ปูพรมตรวจค้น 39 เป้าหมายในพื้นที่จ.สงขลา จ.สตูล จ.ยะลา จ.ปัตตานี และจ.นราธิวาส ตามยุทธการ ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองให้น่าอยู่ ทวงคืนความเป็นธรรมให้ลูกหนี้เงินกู้นอกระบบ หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่าถูกนายทุนเงินกู้รายใหญ่ปล่อยเงินกู้อัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
โดยปฎิบัติการครั้งนี้ได้ตรวจยึดอายัดทรัพย์นายทุน 4ราย ในจำนวน 3 อำเภอ ประกอบไปด้วย อ.จะนะ อ.สะเดาและอ.หาดใหญ่ จับกุมนางรวินันท์ ไชยเหมวงศ์ นายสาริษฐ์ โพธิ์ศรี, น.ส.พรวิภา เปียกลับ ,และน.ส.ทิพย์ธัญญา โพธิ์ศรี
นอกจากนี้ได้ออกหมายเรียก 3 ราย นางจตุพร มัชฌิมาภิโร นายโสภณ มัชฌิมาภิโร และน.ส.ศิริภา จันทะสะนะ นายทุนเงินกู้ในพื้นที่ หาดใหญ่ มาทำการแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
พร้อมยึดอายัดทรัพย์สินเป็นบ้าน อาคารพานิชย์ และที่ดินมูลค่ากว่า 75.5 ล้านบาท
นอกจากนี้ได้นำกำลังไปตรวจค้นอาคารพาณิชย์ในเครือของบริษัท โสธรธุรกิจ จำกัด อีกจำนวน 34 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.สงขลา จำนวน 16 แห่ง , จ.สตูล จำนวน 6 แห่ง , จ.ยะลา จำนวน 5 แห่ง , จ.ปัตตานี จำนวน 2 แห่ง และ จ.นราธิวาส จำนวน 5 แห่ง เพื่อตรวจยึดเพื่อหาพยานหลักฐานความเชื่อมโยง โดยยึดเอกสารคู่มือจดทะเบียนรถจำนวน1215 ฉบับ ไปตรวจสอบ หลังได้เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับนายทุนเงินกู้นอกระบบกระทำสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกับประชาชน
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำหนดให้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของพี่น้องประชาชน เป็นวาระแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและดำเนินการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการปราบปรามในพื้นที่อีสานเหนือมาแล้ว ในอ.กระนวน อ.ชุมแพ จังหวัดขอนแก่น อุดรธานี กาฬสินธุ์ จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดเลย จังหวัดร้อยเอ็ด จ.หนองบัวลำภู จังหวัดหนองคาย จังหวัดเลย รวมทั้งขยายผลมายังพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ในพื้นที่ จ.สงขลา หลังได้รับร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่าถูกนายทุนเงินกู้รายใหญ่ปล่อยเงินกู้อัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
จากการตรวจสอบเอกสาร หลักฐานที่ตรวจยึดได้ทั้งหนังสือสัญญากู้ สัญญาจำนอง พบว่ากลุ่มนายทุนส่วนใหญ่มีพฤติกรรมในลักษณะเดิมคือให้ลูกหนี้ลงชื่อในกระดาษเปล่า รวมทั้งมีการทำขายฝาก ขายจำนองไม่ถูกต้อง ทั้งนี้จากการปฎิบัติการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ภาคใต้ 3 ครั้ง สามารถตรวจยึดโฉนด ทั้งสิ้น 280 ฉบับ น.ส.3 ก. 358ฉบับพื้นที่ 1,325 ไร่ มูลค่ากว่า 2100 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้จะขยายผลในทุกพื้นที่ รวมทั้งจัดระเบียบฟิโกไฟแนนซ์ รวมทั้งไฟแนนซ์ ที่ดำเนินการผิดข้อบังคับผิดเงื่อนไข ของกระทรวงการคลัง โดยในวันที่ 26 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ ทางพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำกับดูแลสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานมอบโฉนดคืนให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากหนี้นอกระบบและนายทุนดอกเบี้ยโหด ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 6
พ.ต.ต.หญิงพัชรี ศรีเผือก สว.ฝอ.5 บก.อก.สตม.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น