วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2561

นายไพโรจน์ เทศนิยมสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย พร้อมตัวแทนจากสื่อต่างๆ เผยฉายาตำรวจประจำปี 2561 จำนวน 11 นาย

    12.30 น/  นายไพโรจน์ เทศนิยมสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย พร้อมตัวแทนจากสื่อต่างๆ เผยฉายาตำรวจประจำปี 2561 จำนวน 11 นาย
     ประกอบด้วย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ  ศรีวรขาน  รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา  “ ซานต้า  อวบ ” เนื่องมาจากการลงพื้นที่แถลงข่าวและดูการทำงานของผู้ใต้บังคับบัญชาในทุกพื้นที่ไม่ว่าคดีเล็กหรือคดีใหญ่ สร้างความประทับใจให้ผู้ใต้บังคับบัญชามาตลอดทั้งปี พร้อมมอบรางวัลให้ชุดทำงาน ทุกครั้งไป จึงเป็นที่มาของฉายา “ซานต้า  อวบ ”
      พล.ต.อ.ศรีวราห์  รังสิพราหมณกุล  รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา  “ นายพล License ” จากกรณีที่ท่านได้ลงพื้นที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน  จ.เชียงราย เพื่อตรวจดูการช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่า ภายในถ้ำ ซึ่งขณะเดินตรวจการทำงานของเจ้าหน้าที่  พล.ต.อ.ศรีวราห์  มีการสอบถามเจ้าหน้าที่ๆกำลังทดสอบบินโดรน  โดยมีการตั้งคำถามว่ามีใบอนุญาตหรือเปล่า จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ซึ่งต่อมาพล.ต.อ.ศรีวราห์ ก็ได้มีการชี้แจงว่าการบินโดรนต้องได้รับอนุญาตจาก กสทช. ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐต้องทำให้ถูกต้องเพื่อเป็นตัวอย่าง และหากนำโดรนหลาย ตัวไปบินโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่มีการควบคุม  อาจทำให้ขัดขวางการปฎิบัติงานส่วนอื่น จึงได้ฉายาประจำปี“นายพล License”
     พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา  “ นายพล ล้านวิว ”  เพราะมีประชาชนติดตามการทำงานเป็นจำนวนมาก   โดยเฉพาะการลงพื้นที่ออกค้นหา13หมูป่า ที่ถ้ำขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย  ซึ่งเป็นนายตำรวจคนแรกที่ลงพื้นที่ อยู่กินในป่า พร้อมบวชอุทิศส่วนกุศลให้เจ้าแม่ดอยนางนอน มีคน ติดตามผ่านโซเชียลถึง 4 ล้าน 7 แสน จึงได้ฉายา “ นายพล ล้านวิว ”
       พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์  ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา “ เด่น ปักกลด ”  เนื่องจากตอนที่ท่านดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค.3  ได้จัดทำโครงการประชารัฐร่วมใจ ต้านภัยยาเสพติด (ปักกลด) โดยให้ตำรวจไปปฏิบัติหน้าที่ในหมู่บ้าน ชุมชนที่มียาเสพติดแพร่ระบาด แบบไปกินนอนในหมู่บ้าน ชุมชนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของชุมชนในเรื่องต่างๆ และแสวงหาความร่วมมือจากประชาชน และกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาอาชญากรรม  โดยโครงการนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีการนำเอาไปใช้ในหลายจังหวัด จนเป็นที่มาของฉายา “เด่น  ปักกลด ”
        พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ฉายา “สวาทแคท “( S.W.A.T CAT) ครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้ให้ความสนใจคดีคดีโจรผัวเมียอุ้มหมา อุ้มแมว ตระเวนลักทรัพย์ ไปหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่องนานกว่า 15 ปี  ได้ทรัพย์สินไปกว่า 20 ล้านบาท แต่สุดท้ายก็หนีไม่รอดมือหน่วย S.W.A.Tในสังกัด ภูธรภาค 1
       พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้รับฉายา “ นายพล ตีนตุ๊กแก ” เรียกได้ว่ายึดตำแหน่งเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ทั้งๆที่ปีที่ผ่านมาในพื้นที่มีคดีอาชญากรรมใหญ่ๆเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นชิงทรัพย์ร้านทอง ปล้นรถขนเงิน ตัดตู้เอทีเอ็ม ที่ยังจับไม่ได้  แต่ยังได้รับความไว้วางใจให้ดูแลพื้นที่ภาค 2 ต่อไป เหมาะสม" นายพล ตีนตุ๊กแก ”
       พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้รับฉายา  “ มือปราบดอกเบี้ยโหด ” จากกรณีที่ลงพื้นที่ปราบปรามแกงค์เงินกู้นอกระบบดอกเบี้ยโหด พร้อมยึดโฉนดที่ดินคืนประชาชนได้มากกว่า 10,000 ฉบับ เนื้อที่รวม กว่า 3 หมื่นไร่ มูลค่ามากกว่า 13.000 ล้านบาท จึงได้ฉายา “ มือปราบดอกเบี้ยโหด ”
      พล.ต.ต.สุทธิ พวง พิกุล อดีต ผู้บังคับการภูธรจังหวัดกาญจนบุรี  ได้รับฉายา “ ผู้การหวยเด้ง ” จากคดีแย่งสิทธิ์หวย 30 ล้านบาท ถึงแม้จะมีการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วและอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี  แต่คดีนี้ก็ทำให้ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ที่ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการภูธรตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี  ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง  จนถูกคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง จนเป็นที่มา “ ผู้การหวยเด้ง ”
       พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้รับฉายา “ บิ๊กป๋อ สายโหด ”  เห็นบุคลิกท่านเป็นเรียบร้อย แต่หลังเข้ารับตำแหน่งเพียง 3 เดือน ก็มีการวิสามัญแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ไปแล้ว  2 ราย จึงได้ฉายา “บิ๊ก ป๋อ สายโหด ”
      พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น.เจ้าของฉายา หลวงตามสั่ง  ในปีนี้กลับได้“หลวงที่ถูกลืม เพราะแม้ว่าในปีที่ผ่านมาจะมีผลงานการปราบปรามพนันบอลโลก จนสามารถยึดทรัพย์ได้มากกว่า 100 ล้าน แต่กลับไม่ได้รับการพิจารณาตำแหน่งในปีนี้
             ส่วนพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ในปีนี้ไม่มีการตั้งฉายาให้แต่อย่างใด แต่คณะกรรมพิจารณาฉายาได้ลงความเห็นว่าสำหรับผู้นำนายนี้ ไม่มีคำบรรยายใดๆจะเหมาะสม  เพราะตลอดปีที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่ดูแลคดีใหญ่ๆด้วยตัวเองแทบทั้งสิ้น อีกทั้งยังร่วมทุกข์ร่วมสุขกับผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเป็นกันเอง ไม่ถือตัวถือยศถือตำแหน่งจนได้ใจลูกน้องไปเต็มๆ เรียกได้ว่าไม่มีคำบรรยายจริงๆและไม่มีฉายาใดสมเหมาะสมกับผู้นำคนนี้ จึงให้ คำนิยามแทนตัวผบ.ตร.นายนี้ว่า “ลูกผู้ชายที่ชื่อ แป๊ะ” 


















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น