วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2568

พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.แถลงผลจับกุมต่างด้าวทำผิดกฏหมาย 4 คดี

 พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.แถลงผลจับกุมต่างด้าวทำผิดกฏหมาย 4 คดี



เมื่อเวลา 13:30 น.วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2568 ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 2 อาคาร 30 ชั้น สตม. (เมืองทองธานี) พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1.บก.สส.สตม., พ.ต.ท.ดุสิต ภูหงส์เพชร รอง ผกก.กก.1 บก.สส.สตม.และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมในการแถลงผลจับกุมชาวต่างด้าวที่กระทำผิดกฏหมายถึง 4 คดี โดยมีผลปฏิบัติดังนี้




[ 1 ] รวบจีนเทาหลอกสถาบันการเงิน สูญเงิน 2,800 ล้านบาท หนีกบดานไทย

     สอท.สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ขอความร่วมมือ สตม. ให้สืบสวนจับกุมและส่งกลับ

ผู้ต้องหาตามหมายจับของทางการจีน ชื่อ MR.PAN (นามสมมติ) อายุ 41 ปี สัญชาติจีน ซึ่งกระทำความผิดฐาน ประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย โดย MR.PAN ได้ร่วมกันกับพวกเพื่อตั้งกลุ่มหลอกลวงประชาชนชาวจีน โดยแอบอ้างมีธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีผลประกอบการดี เพื่อนำไปกู้เงินจากสถาบันการเงินต่าง ๆ ให้ปล่อยกู้อย่างผิดกฎหมาย รวมจำนวนเงิน 560 ล้านหยวน (ประมาณ 2,800 ล้านบาท) และมีกำไรเกิดขึ้นอย่างผิดกฎหมายมากกว่า 80 ล้านหยวน (400 ล้านบาท) ซึ่งหน่วยสืบสวนอาชญากรรมทางเศรษฐกิจเซี่ยงไฮ้ ได้ทำการสืบสวนและขออนุมัติหมายจับ MR.PAN กับพวก เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2567 ในความผิดเกี่ยวกับการทำธุรกิจลักษณะผิดกฎหมาย แต่ปรากฏว่า MR.PAN ได้หลบหนีออกนอกประเทศจีนมายังประเทศไทยก่อนหน้าที่จะมีการออกหมายจับแล้ว




กองบังคับการสืบสวนสอบสวน โดย กองกำกับการ 1 กองบังคับการสืบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ทำการสืบสวนติดตามตัว MR.PAN ผู้ต้องหาตามหมายจับประเทศจีนดังกล่าว พบว่าได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เมื่อ 25 พ.ค.67 ด้วยวีซ่าท่องเที่ยว และไม่มีการต่อวีซ่าคาดว่าเพื่อหลบเลี่ยงการติดตามตัวจากทางการไทยและจีน จนปัจจุบันวีซ่าได้หมดอายุแล้ว จากการตรวจสอบพบข้อมูลการแจ้งที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา จว.ชลบุรี จึงได้จัดกำลังลงพื้นที่หาข่าว จนทราบว่า MR.PAN หลบซ่อนตัวอยู่กับแฟนสาวในร้านทำเล็บแห่งหนึ่งในพื้นที่เมืองพัทยา จึงได้เฝ้าสังเกตุการณ์ร้านทำเล็บดังกล่าวเป็นเวลากว่า 3 เดือน จนมั่นใจว่า MR.PAN หลบซ่อนตัวอยู่ในร้านทำเล็บดังกล่าวจึงได้นำกำลังเข้าตรวจค้นและพบตัว MR.PAN อยู่ภายในร้านดังกล่าวจริง สอบถามยอมรับว่าเป็นชาวจีนตามหมายจับดังกล่าวจริง แต่ไม่ให้การในเรื่องการกระทำผิดในประเทศจีน เบื้องต้น จึงได้จับกุม MR.PAN ในความผิด เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด หรือ อยู่เกิน หรือ Overstay นำตัวส่ง พงส.สภ.บางละมุง และแจ้ง สอท.สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อนำตัวกลับไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




[ 2 ] รวบ 3 มังกรจีนแก๊งค้ามนุษย์หลอกเพื่อนร่วมชาติไปเป็นคอลเซ็นเตอร์

     สอท.สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ได้ประสานข้อมูลให้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ช่วยสืบสวนติดตามตัวชาวจีน จำนวน 3 คน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของทางการจีน ในความผิดเกี่ยวกับการหลอกลวงชาวจีนไปทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลักษณะเป็นการค้ามนุษย์ โดยเป็นการสืบสวนของ จนท.ตำรวจจีน มณฑลเจียงซู ประเทศจีน ซึ่งพบว่า เมื่อช่วง ธ.ค.2567 ถึง ก.ค.2568 กลุ่มของผู้ต้องหาชาวจีน ซึ่งมี MR.YANG (นามสมมติ) อายุ 31 ปี และ MR.ZHANG (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ร่วมอยู่ด้วย มีพฤติกรรมหลอกลวงเหยื่อชาวจีนไปทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมาและกัมพูชา โดยอ้างว่าสามารถเปิดบัตรเครดิตต่างประเทศและกดเงินสดออกมาได้โดยไม่ต้องชำระเงิน แต่ต้องเดินทางออกนอกประเทศไปเปิดการใช้บัตรเครดิตก่อน เมื่อเหยื่อหลงเชื่อจะพาไปที่บริเวณชายแดนมณฑลยูนนาน และกวางซี จากนั้นจะมีกลุ่มช่วยเหลือหลบหนีข้ามชายแดน และจะพาตัวไปยังฐานการหลอกลวงในเมียนมา และกัมพูชา ต่อมาจะถูกบังคับให้ทำการหลอกลวงชาวจีนด้วยกัน ซึ่งมีผู้เสียหายชาวจีนกว่า 120 คนแล้ว มูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านหยวน หรือประมาณ 5 ล้านบาท ซึ่งทางการจีนได้สืบสวนจับกุมไปแล้ว 11 คน ที่ประเทศจีน แต่ MR.YANG และ MR.ZHANG ได้หลบหนีออกนอกประเทศจีนมายังประเทศไทยก่อนแล้ว ศาลมณฑลเจียงซู จึงได้ออกหมายจับทั้ง 2 คน เมื่อเดือน ก.ค.2568 ที่ผ่านมา กองบังคับการสืบสวนสอบสวน มอบหมาย กองกำกับการ 1 กองบังคับการสืบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ทำการสืบสวนหาข่าวติดตามตัว MR.YANG และ MR.ZHANG โดยจากการตรวจสอบพบข้อมูลว่า MR.YANG ได้เดินทางเข้าไทยเมื่อ ก.ย.68 ส่วน MR.ZHANG เดินทางเข้าไทยเมื่อ มิ.ย.68 ทั้งคู่ใช้วีซ่านักท่องเที่ยว และพบว่าทั้งสองแยกกันพักอาศัยในคอนโดมีเนียมย่านซอยสุขุมวิท 10 และซอยลาดพร้าว 102 จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว และเฝ้าสังเกตคอนโดมีเนียมทั้ง 2 แห่ง จนกระทั่งพบตัว MR.YANG และ MR.ZHANG ในเวลาต่อมา และได้ควบคุมตัวในความผิดอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด นอกจากนี้ ยังพบตัว Miss CHENG (นามสมมติ) อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นแฟนสาวของ MR.ZHANG อยู่ด้วยกันภายในห้องพัก จึงตรวจสอบกับตำรวจจีน ประจำ สอท.สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย พบว่า ถูกทางการจีนออกหมายจับด้วยเช่นกัน ในความผิดเกี่ยวกับการรับของโจรและการช่วยเหลือชาวจีนให้ลักลอบออกนอกประเทศจีน ซึ่งเชื่อว่าอยู่ในแก๊งเดียวกัน จึงได้จับกุมดำเนินคดีทั้ง 3 คน และประสานทางการจีน เพื่อส่งตัวกลับไปดำเนินคดีตามหมายจับของทางการสาธารณรัฐประชาชนจีนต่อไป



[ 3 ] สืบ ตม.รวบหนุ่มไต้หวันหนีหมายจับคดียาเสพติดซุกตัวในไทย

     สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไต้หวัน ประจำประเทศไทย ได้ประสานงานแจ้งข้อมูลว่ามีชายชาวไต้หวัน กระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบนำยาเสพติดเข้าในไต้หวัน ชื่อ MR.CHEN (นามสมมติ) อายุ 37 ปี โดยเหตุเกิดที่สถานีตรวจสอบขนส่งสินค้าทางอากาศเขตจีหลง ไต้หวัน เมื่อ 8 ก.ค.64 กรมศุลกากรจีหลง ได้ตรวจสอบยาเสพติดประเภทกัญชา จำนวน 110 ห่อ (น้ำหนักรวมประมาณ 54.334 กก.) ซุกซ่อนอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์สินค้านำเข้าจาก ประเทศแคนาดาที่สำแดงว่าเป็น ไม้เมเปิ้ล ต่อมาเมื่อ 12 ส.ค.64 สามารถจับกุมผู้มารับสินค้าดังกล่าวได้ 1 คน หลังจากนั้นสอบสวนขยายผลได้อีก 2 คน โดยทั้ง 2 คนให้การซัดทอด MR.CHEN และมีพยานหลักฐานเพียงพอ อัยการเขตจีหลง ได้ยื่นฟ้อต่อศาลเมื่อ 10 ก.พ.65 หลังจากนั้น MR.CHEN จึงได้หลบหนีออกนอกไต้หวันตั้งแต่ 2566 ศาลเขตจีหลง จึงได้ออกหมายจับ MR.CHEN เมื่อ 9 ส.ค.67 หลังจากนั้นทางการไต้หวัน ได้สืบทราบว่า MR.CHEN ได้เดินทางเข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศไทย จึงได้ประสานความร่วมมือขอให้ติดตามสืบสวนหาตัว MR.CHEN ดังกล่าว



กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ได้มอบหมายให้ กองกำกับการ 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงาน

ตรวจคนเข้าเมือง ออกติดตามหาข่าวและควบคุมตัว MR.CHEN จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า MR.CHEN ได้เดินทางเข้ามายังประเทศไทยเมื่อ 14 ก.ค.68 ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว พักอาศัยอยู่ที่คอนโดมีเนียมแห่งหนึ่งในเขตจอมทอง และทราบว่ากำลังสมัครเรียนที่สถานศึกษาแห่งหนึ่ง ชุดสืบสวนจึงได้วางแผนเฝ้ารอ MR.CHEN นำเอกสารและมาแสดงตัวต่อ จนท.ตรวจคนเข้าเมือง ณ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และเมื่อ 27 พ.ย.68 MR.CHEN ได้มายื่นเอกสารตามนัดหมาย จนท. จึงได้แสดงตัวและควบคุมตัวเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ควบคุมตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. และได้ประสาน สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไต้หวัน เพื่อส่งตัวกลับไต้หวันดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



[ 4 ] รวบหนุ่มแดนมะกะโรนี ลักลอบนำเข้ายาเสพติดในบ้านเกิด

     สำนักงานผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจประจำ สอท.อิตาลี ประจำประเทศไทย ได้ประสานงานร้องขอให้สืบสวนติดตามจับกุม MR.SIMONE (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ชาวอิตาลี เนื่องจากถูกออกหมายจับโดยศาลเมือง Asti ประเทศอิตาลี ในความผิดเกี่ยวกับการลักลอบจำหน่ายยาเสพติด โดยตำรวจอิตาลีสืบสวนพบว่ามีการลักลอบส่งยาเสพติด ผ่านพัสดุจากต่างประเทศต่าง ๆ ตั้งแต่เมื่อ ก.ย.2567 - มิ.ย.2568 โดยมียาเสพติดหลายชนิด ทั้งเฮโรอีน, โคเคน, เคตามีน, ยาอี, LSD ซึ่งมีการแอบนำยาเสพติดซุกซ่อนมากับพัสดุจากต่างประเทศ ซึ่งมีการสืบสวนและจับกุมผู้ต้องหาชาวอิตาลีที่รับพัสดุยาเสพติดดังกล่าวแล้ว 2 ราย จากการสืบสวนขยายผล ทำให้ทราบว่ามี MR.SIMONE เป็นผู้จัดส่งยาเสพติดดังกล่าวไปให้แก๊งในอิตาลี และนำไปจำหน่ายให้ลูกค้าต่อไป และจากการสืบสวน ทำให้ทราบว่า MR.SIMONE ได้หลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศไทย

กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ได้มอบหมายให้ กองกำกับการ 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงาน




ตรวจคนเข้าเมือง ดำเนินการติดตามสืบสวนนำตัวส่งกลับไปยังประเทศอิตาลี จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า MR.SIMONE เดินทางเข้ามาในไทยเมื่อเดือน ต.ค.2568 ด้วยวีซ่า DTV และพบข้อมูลว่าพักอาศัยอยู่ในคอนโดมีเนียม ย่านเอกมัย จนท.ชุดสืบสวนจึงได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าตรวจค้นห้องพักดังกล่าว ซึ่งผลการตรวจค้นพบ MR.SIMONE พักอาศัยอยู่ และไม่พบยาเสพติดหรือสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด จึงได้แจ้งคำสั่งการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรควบคุมตัวส่งห้องกัก กก.3 บก.สส.สตม. หลังจากนั้นได้ประสานข้อมูลกับ จนท.ทูตฝ่ายตำรวจประจำ สอท.อิตาลี เพื่อเตรียมการส่งกลับประเทศอิตาลีเพื่อดำเนินคดีต่อไป และหลังจากนี้จะได้สืบสวนขยายผล MR.SIMONE ว่ามีเครือข่ายสนับสนุนยาเสพติดให้หรือไม่ อย่างไร

# สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th

จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น