วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2568

ปัตตานี - ส่องย่านเก่าปัตตานี 'กือดาจีนอ' เมืองท่าในอดีต สู่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เชื่อมโยงงานกระตุ้นเศรษฐกิจ ศอ.บต.

 ปัตตานี - ส่องย่านเก่าปัตตานี 'กือดาจีนอ' เมืองท่าในอดีต สู่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เชื่อมโยงงานกระตุ้นเศรษฐกิจ ศอ.บต.




     จากการที่ ศอ.บต. เตรียมจัด "บิ๊กอีเวนต์กระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนใต้" ในวันที่ 26 กันยายน 2568 ณ สนามออมทอง อ.เมืองปัตตานี เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและส่งเสริมการค้าการลงทุน ที่ตั้งของสนามออมทองอยู่ไม่ไกลจาก "กือดาจีนอ" ย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด




     "กือดาจีนอ" ซึ่งแปลว่า "ตลาดจีน" ในภาษามลายู เคยเป็นเมืองท่าและย่านการค้าสำคัญของปัตตานีมานานกว่า 100 ปี บ้านเรือนหลายหลังยังคงรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบจีนที่สวยงามคลาสสิกไว้จนถึงทุกวันนี้ และถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์หรือแหล่งเรียนรู้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสเรื่องราวในอดีต

    ปราชญ์ชาวบ้านในพื้นที่ได้ให้ข้อมูลว่า "เราเป็นเมืองท่า เราติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ โดยเฉพาะพวกคนจีน ของจีนก็มาที่นี่อยู่เยอะ" สะท้อนถึงความรุ่งเรืองทางการค้าในอดีตที่เชื่อมโยงกับนานาชาติ



    นอกจากบ้านเรือนเก่าแก่แล้ว ย่านนี้ยังมีความโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบ ชิโนโปรตุกีส ที่มีสีสันสดใสผสมผสานกับอาคารเรือนไม้ที่เรียบง่าย แต่ดูมีเสน่ห์ ซึ่งส่วนใหญ่มีอายุร่วมหลายร้อยปี ทำให้ กือดาจีนอ กลายเป็นย่านสุดชิคที่นักท่องเที่ยวสายถ่ายภาพและผู้สนใจประวัติศาสตร์นิยมมาเยี่ยมเยือน



    หากเดินทางจากย่านกือดาจีนอต่อไปอีกไม่ไกล จะพบกับ ศาลเจ้าเล่งจูเกียง หรือที่รู้จักกันในชื่อ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ที่ตั้งอยู่ในย่านตลาดจีนแห่งนี้ เดิมมี องค์พระหมอ (โจ๊วซูกง) เป็นเทพประธาน ก่อนที่ภายหลังจะมีการอัญเชิญ เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว มาประดิษฐาน ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือในความมีน้ำใจเด็ดเดี่ยว

    ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของประเพณีสำคัญประจำปีอย่าง งานสมโภชศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ที่จัดขึ้นในวันเพ็ญเดือน 1 ของจีน (ตรงกับวันมาฆบูชา) ซึ่งมีประเพณีแห่องค์พระ ลุยน้ำ และลุยไฟ โดยงานในปีที่ผ่านมาสามารถสร้างเม็ดเงินสะพัดในจังหวัดปัตตานีได้มากถึง 100 ล้านบาท



    การที่ย่านประวัติศาสตร์แห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากจุดจัดงาน กระตุ้นเศรษฐกิจ ของ ศอ.บต. แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการเชื่อมโยงกิจกรรมสมัยใหม่เข้ากับรากฐานทางวัฒนธรรม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดนใต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ



ตอริก สหสันติวรกุล รายงาน 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น