กรมราชทัณฑ์ รับมอบนโยบายผู้บริหารงานราชทัณฑ์ทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 19 ก.ย.68 ที่ห้องสัมมนากรมราชทัณฑ์ จ.นนทบุรี นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานในการประชุมผู้บริหารงานราชทัณฑ์ทั่วประเทศ ครั้งที่ 2/2568 โดยมี นางจิรภา สินธุนาวา รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายสมบูรณ์ ศิลา รองอธิบดี กรมราชทัณฑ์ และ นายยุทธนา นาคเรืองศรี รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วย ผู้บัญชาการเรือนจำ/ผู้อำนวยการทัณฑสถานทั่วประเทศ ผู้อำนวยการกองส่วนกลางกรมราชทัณฑ์ เข้าร่วมรับฟังแนวทางและรับมอบนโยบาย
โดยในการประชุมในวันนี้ได้รับเกียรติจาก พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี บรรยายพิเศษ ในหัวข้อเรื่องโปรแกรมการฟื้นฟู สมรรถภาพผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ติดยาเสพติด รูปแบบชุมชนบำบัด เพื่อเป็นแนวทางในการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสังคมของผู้ต้องขัง ให้สามารถเลิกยาเสพติดได้อย่างถาวร มีศักยภาพในการดำเนินชีวิตในสังคมอย่างถูกต้อง ไม่ก่อความเดือดร้อน และลดการกระทำผิดซ้ำ โดยเน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทัศนคติ สร้างการยอมรับในตนเองและผู้อื่น รวมถึงการสร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัวและสังคมสามารถดูแลผู้ต้องขังหลังพ้นโทษได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ยังมีการติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา และการดำเนินการโครงการพระราชทานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง จากพระราชดำริของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ โดยขับเคลื่อนแนวทางและขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกมิติ ปลูกฝังและสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของสถาบันชาติ เพื่อเป็นการสนับสนุนกลุ่มผู้ต้องราชทัณฑ์และผู้ที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมให้แสดงพลังในการทำความดี
ท้ายนี้ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ ได้เน้นย้ำในการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านกระบวนการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังให้เป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน ให้ความสำคัญในการพัฒนาและส่งเสริมการพัฒนาทักษะในด้านต่าง ๆ ให้กับผู้ต้องขัง ขณะต้องโทษในเรือนจำ ซึ่งได้วางแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินการให้สอดคล้องกับแนวนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยพัฒนาส่งเสริม การจัดตั้งเรือนจำเฉพาะทางประจำเขต และตระหนักถึงความสำคัญในการสนับสนุนผู้ด้อยโอกาส โดยเฉพาะผู้ต้องขัง และผู้พ้นโทษ ให้ได้รับโอกาสในการกลับคืนสู่สังคม การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการพัฒนาและยกระดับการดำเนินงานร่วมกัน ส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพ สนับสนุนที่พักอาศัยแก่ผู้ต้องขังหลังการปล่อยตัว รวมถึงร่วมกันพัฒนาแนวทางกาสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ต้องขังภายหลังพ้นโทษ และร่วมเสริมสร้างความเข้มแข็งในการให้ความช่วยเหลือให้ครอบคลุม อันเป็นการคืนคนดีสู่สังคมอย่างยั่งยืนต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น