วันพุธที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

สตม.แถลงผลจับกุมต่างด้าวทำผิดกฏหมาย 2 คดี 1. บุกรวบผู้ต้องหาค้ายาเสพติดตามหมายจับผู้ร้ายข้ามแดน พ่วงผู้ต้องหาเสพและครอบครองยาบ้า และ 2. รวบจีน overstay ภายหลังพบว่าเป็น นักธุรกิจแดนมังกร เปิดบริษัทเก๊ หลอกลงทุน (แชร์ลูกโซ่) หนีซุกไทย ความเสียหาย 500 ล้านบาท

 สตม.แถลงผลจับกุมต่างด้าวทำผิดกฏหมาย 2 คดี 1. บุกรวบผู้ต้องหาค้ายาเสพติดตามหมายจับผู้ร้ายข้ามแดน พ่วงผู้ต้องหาเสพและครอบครองยาบ้า และ 2. รวบจีน overstay ภายหลังพบว่าเป็น นักธุรกิจแดนมังกร เปิดบริษัทเก๊  หลอกลงทุน (แชร์ลูกโซ่) หนีซุกไทย ความเสียหาย 500 ล้านบาท




เมื่อเวลา 10:30 น.วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ.2568 ณ อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สตม. (เมืองทองธานี) พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.และคณะ ร่วมแถลงผลการจับกุมชาวต่างชาติทำผิดกฏหมายในคดีสำคัญ 2 คดี

[ คดีที่ 1 ] บุกรวบผู้ต้องหาอาชญากรรมค้ายาเสพติดตามหมายจับผู้ร้ายข้ามแดน พ่วงผู้ต้องหาเสพและครอบครองยาบ้า




     กก.1 บก.สส.สตม. จับกุมคนต่างด้าวสัญชาติจีน จำนวน 2 คน ได้แก่ นายหลี่ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 624/2568 ลงวันที่ 16 มิ.ย.2568 โดยต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน อาชญากรรมค้ายาเสพติด (ออกหมายจับผู้ร้ายข้ามแดน) นำตัวส่งพนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศ เพื่อส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่สาธารณรัฐประชาชนจีน และ นายหยู (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า 418 เม็ด และไอซ์ 1.05 กรัม) พร้อมด้วยอุปกรณ์การเสพ จำนวน 2 ชุด โดยกล่าวหาว่า เสพและมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและไอซ์) โดยผิดกฎหมาย นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเข้าจับกุมตัวได้ที่บ้านพักภายในหมู่บ้านย่านลาดพร้าว 71 นาคนิวาส 48 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ






     สืบเนื่องจาก สำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีหนังสือแจ้งมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ร้องขอให้ทางการราชอาณาจักรไทยให้ส่งตัวนายหลี่ บุคคลสัญชาติจีน เพื่อส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ไปดำเนินคดีที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ในความผิดฐาน “อาชญากรรมค้ายาเสพติด” อันเป็นความผิดอาญาตามกฎหมายสาธารณรัฐประชาชนจีน ต่อมาพนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศ ได้ดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อขอออกหมายจับนายหลี่ และได้ส่งหมายจับศาลอาญา ที่ 624/๒๕๖๘ ลงวันที่ 16 มิ.ย.๒๕๖๘ มายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อดำเนินการสืบสวนจับกุม






     สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้สั่งการให้ บก.สส.สตม. สืบสวนติดตามจับกุม นายหลี่ ตามหมายจับของศาลอาญาดังกล่าว โดยทาง พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สส.สตม.ได้สั่งการให้ กก.1 บก.สส.สตม. สืบสวนติดตามจับกุม จากการสืบสวนของ กก.1 บก.สส.สตม. พบว่า นายหลี่ ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยและพักอาศัยอยู่ในบ้านพักภายในหมู่บ้านย่านลาดพร้าว 71 นาคนิวาส 48 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ จึงได้ขอหมายค้นต่อศาลอาญาเข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบนายหลี่ พักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว และพบ นายหยู ภายในห้องนอนชั้น 2 พร้อมของกลางยาบ้า 418 เม็ด ไอซ์ 1.05 กรัม และอุปกรณ์การเสพ จำนวน 2 ชุด ซึ่งนายหยูทิ้งลงไว้ใต้เตียงนอนเมื่อทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้น จึงได้ทำการจับกุม





     นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบแก๊สไนตรัสออกไซด์หรือแก๊สหัวเราะ บรรจุหลอดเล็ก 152 หลอด หลอดใหญ่ 6 หลอด จุกสีขาวสำหรับเสียบหลอดแก๊ส 92 อัน ลูกโป่งถุงใหญ่ 4 ถุง ลูกโป่งถุงเล็ก 2 ถุง ซึ่งนายหลี่อ้างว่าได้ซื้อมาจากย่านอาร์ซีเอไว้เพื่อสูดดมเอง จึงได้ตรวจยึดไว้เพื่อทำการตรวจสอบและสืบสวนขยายผลหาผู้กระทำผิดต่อไป

[ คดีที่ 2 ] รวบจีน overstay ภายหลังพบว่าเป็นนักธุรกิจแดนมังกร เปิดบริษัทเก๊หลอกลงทุน (แชร์ลูกโซ่) หนีซุกไทย ความเสียหาย 500 ล้านบาท

     สืบเนื่องจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีคำสั่งให้สืบสวนปราบปรามและระดมจับกุมคนต่างด้าวซึ่งอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (Overstay) เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ปอพ.บก.สส.สตม.ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีบ้านพักหลังหนึ่งอยู่ภายในซอยศิริถาวร ถนนพระราม 9 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ มีบุคคลสัญชาติจีน พักอาศัยอยู่หลายคน น่าเชื่อว่าจะใช้บ้านหลังดังกล่าวกระทำความผิด จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นต่อศาลอาญาพระโขนงเข้าตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ นางหง (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี สัญชาติจีน ไม่มีหนังสือเดินทางแสดงแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ตรวจสอบข้อมูลการเดินผ่านระบบสารสนเทศ ตม. พบว่า นางหงเดินทางเข้ามาและอยู่ในประเทศไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุด รวมจำนวน 337 วัน จึงจับกุมในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนคนต่างด้าวรายอื่นอีก 5 คน ไม่พบการกระทำผิด ทั้งนี้ กก.ปอพ.บก.สส.สตม. ได้ประสานงานไปยัง สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย รับแจ้งว่า นางหง ประกอบอาชีพเป็นนักธุรกิจ ได้ร่วมกับสมาชิกรายอื่น ๆ ก่อตั้งบริษัท Zhongguo Finance เพื่อให้บริการแพลตฟอร์มร่วมลงทุน โดยสร้างภาพลักษณ์ว่าเป็นบริษัทด้านการลงทุนในธุรกิจระดับโลก มีการต่อยอดสร้างธุรกิจและโครงการต่าง ๆ จำนวนมาก อีกทั้งบริษัทยังดำเนินกิจการที่เกี่ยวข้องการกับใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ต การพัฒนาแอปพลิเคชัน โทรศัพท์มือถือ และเป็นสื่อกลางในการจัดงานสังสรรค์ระดับสูง ซึ่งโมเดลธุรกิจดังกล่าว สร้างแรงจูงใจให้เกิดผู้ร่วมลงทุน มีการชักชวนสมาชิก และมีผู้สนใจทำธุรกิจเป็นจำนวนมาก โดยผู้สนใจจะต้องจ่ายเงินร่วมลงทุนเป็นเงิน ตั้งแต่ 7,000 - 100,000 หยวน เพื่อให้มีสถานะเป็นสมาชิก มีการแบ่งงาน มอบหมายหน้าที่ในการบริหารจัดการการฝึกอบรม มีการเก็บค่าธรรมเนียมการเป็นสมาชิกรายใหม่ ๆ และดูแลกิจการอื่น ๆ ของบริษัท ซึ่งเป็นการสร้างเรื่องหลอกลวงทั้งหมด โดยจากตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าว มีเงินทุนหมุนเวียน มูลค่ากว่า 100 ล้านหยวน หรือกว่า 500 ล้านบาท

     # สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th

จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น