วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

“ 191 รวบหนุ่มหนีคดี แฝงตัวมาลักทรัพย์ในแอฟฯหาคู่ ” ตามนโยบายของรัฐบาลให้เจ้าหน้าที่ของภาครัฐปราบปรามอาชญากรรมทั่วไป และอาชญากรรมที่เกี่ยวกับ ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

 


“ 191 รวบหนุ่มหนีคดี แฝงตัวมาลักทรัพย์ในแอฟฯหาคู่ ”

ตามนโยบายของรัฐบาลให้เจ้าหน้าที่ของภาครัฐปราบปรามอาชญากรรมทั่วไป และอาชญากรรมที่เกี่ยวกับ

ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ

นวลมา ผช.ผบ.ตร. และพล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดติดตามจับกุม

ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์สินของประชาชนอย่างจริงจัง

กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย




พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ., พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล , พ.ต.อ.กรกฎ โปชยะวณิช, พ.ต.อ.เด่นหล้า

รัตนกิจ, พ.ต.อ.อาวุธ อุดมรัตน์, พ.ต.อ.อภิฌาน สวัสดิบุตร, พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ รอง ผบก.สปพ., พ.ต.อ.วสันต์

ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ, พ.ต.ท.อัษฎาวุธ ขวัญเมือง, พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์, พ.ต.ท.ศตวรรษ คนชุม ,พ.ต.ท.

ไพบูลย์ สอโส รอง ผกก.สายตรวจฯ ,พ.ต.ต.ณัฐดนัย บำรุงศรี สว.งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ ร่วมกันแถลงผล

การปฏิบัติดังนี้




จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 1 ราย

นายสิทธิชัย ฯ(ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี

พร้อมด้วยของกลาง

1.รถยนต์ยี่ห้อยาริส สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียน 5 กผ 4432 กทม. พร้อมกุญแจ 1 ชุด

2.โทรศัพท์ไอโฟน 14 โปรแม็ก จำนวน 1 เครื่อง

3.นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ จำนวน 1 เรือน

4.หูฟังบูลทูธ จำนวน 1 ชุด

5.บัตร ATM จำนวน 2 ใบ

สิ่งของตรวจยึด

โดยแจ้งข้อกล่าวหา

1.เสื้อยืดสีดำ จำนวน 1 ตัว (ผู้ถูกจับสวมใส่ในวันก่อเหตุ)

““ลักทรัพย์ หรือรับของโจร”

สถานที่จับกุม บริเวณหน้าร้านสมนึกอะไหล่เก่าราชบุรี ถ.เพชรเกษม ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

วัน เดือน ปี ที่ตรวจค้น/จับกุม วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 14.40 น.




พฤติการณ์กล่าวคือ วันที่ (20 พ.ค. 68) งานสายตรวจ 2 กองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและ

ปฏิบัติการเศษ ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าถูกลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยก่อนเกิดเหตุผู้เสียได้รู้จักกับนายสิทธิชัย

(สงวนนามสกุล) ผ่านแอฟพลิ่เคชั่นหาคู่ ต่อมาวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 นายสิทธิชัยฯ ได้มาพบผู้เสียหาย ที่อพาร์

ทเม้นต์แห่งหนึ่ง ย่านพระยาสุเรนทร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร และนายสิทธิชัยฯได้ถือโอกาส




ตอนผู้เสียหายเผลอ ได้ก่อเหตุลักทรัพย์รถยนต์ พร้อมกับโทรศัพท์ไอโฟน 14 โปรแม็ก และทรัพย์สินอื่นๆภายใน

รถยนต์ หลบหนีไปในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.คันนายาว และได้

ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 2 กองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และผู้บังคับบัญชาจึงได้สั่งการให้ทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำ

ความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 2 ได้สืบทราบว่า นายสิทธิชัยฯ ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่

บ้านเลขที่ 218 ม. 2 ต.เตาปูน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 2 จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ




และสังเกตการณ์บริเวณบ้านหลังดังกล่าว พบชายต้องสงสัยลักษณะคล้ายนายสิทธิชัยฯ (ผู้ก่อเหตุ) ได้ขับขี่

รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านหลังดังกล่าวไปจอดที่เขื่อนท่าทรายโพธาราม และได้เปิดประตูรถยนต์โตโยต้า ยาริส สี

ขาว (สงวนหมายเลขทะเบียน) ที่จอดอยู่บริเวณสถานที่ดังกล่าว ซึ่งตรงกับรถในคดีที่ผู้เสียหายแจ้งความไว้ และได้ขับ

ขี่ออกไปตามถนนเพชรเกษม ชุดสืบสวนหาข่าวงานสายตรวจ2 จึงได้ติดตามและสามารถเข้าควบคุมตัวผู้ขับขี่พร้อม

รถยนต์คันดังกล่าวได้ บริเวณหน้าร้านสมนึกอะไหล่เก่าราชบุรี ถ.เพชรเกษม ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ2 ได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบ พบว่าผู้ขับขี่คือนายสิทธิชัยฯ (ผู้ก่อเหตุ) และรับสารภาพ

ว่าตนคือผู้ก่อเหตุลักทรัพย์รถยนต์คันดังกล่าวนี้พร้อมทรัพย์สินอื่นที่ผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน.คันนายาว

จริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ จากนั้นนายสิทธิชัยฯ (ผู้ถูกจับ)ยินยอมและ

สมัครใจนำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไปตรวจค้นบ้านพักของตน พร้อมกับนำตรวจยึดของกลางรายการอื่นๆ ตาม

บัญชีของกลาง/สิ่งของตรวจยึดข้างต้น และจากการตรวจสอบประวัติคดีและหมายจับของนายสิทธิชัยฯ (ผู้ถูกจับ)

พบว่ายังเป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ จ. 150/2566 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 โดยกล่าวหา

ว่ากระทำความผิดฐาน “เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และ

มาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้

อื่นหรือประชาชน และเป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า

ค่าบริการหรือหนี้อื่น แทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสด” จากนั้นได้นำตัว นายสิทธิชัยฯ (ผู้ถูกจับ)

พร้อมของกลางและสิ่งของตรวจยึด ส่ง พนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ที่มา : กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191)      หมายเหตุ เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคม มีประวัติเคยก่อเหตุลักษณะนี้ มาแล้ว หากมีผู้เสียหายที่เคยถูกก่อเหตุแบบเดียวกันนี้สามารถไปชี้ตัวแจ้งความเพิ่มเติมได้ที่ สน.คันนายาว นะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น