วันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2567

บิ๊กแรก รรท.ผบช.ภ.2 ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ “มังกรเทาดำ” จับเพิ่ม 4 สมาชิกแก๊ง รับบทนอมินีเปิดบริษัทฟอกเงิน ยึดทรัพย์คฤหาสน์ รถหรู 152 ล้านบาท

 บิ๊กแรก รรท.ผบช.ภ.2 ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ “มังกรเทาดำ”  จับเพิ่ม 4 สมาชิกแก๊ง รับบทนอมินีเปิดบริษัทฟอกเงิน ยึดทรัพย์คฤหาสน์ รถหรู 152 ล้านบาท



      วันที่ 13 ธ.ค.67 พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รรท.ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 แถลงผลการทลายเครือข่ายมังกรเทาดำ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เหิมเกริมเปิดออฟฟิศในทาวน์เฮ้าส์แห่งหนึ่งใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งเคยจับกุมได้เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567 

    ต่อมา กองบังคับการสืบสวนสวนตำรวจภูธรภาค 2 ขยายผลจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายฟอกเงินเพิ่มอีก 4 ราย เป็นชาวไทย 3 ราย ชาวจีน 1 ราย ยึดทรัพย์รวมมูลค่า 152 ล้านบาท



   พล.ต.ท.ยิ่งยศ เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ให้ความสำคัญในการสืบสวนขยายผลแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ดังนั้นหลังจากทลายจับกุมแก๊งมังกรเทาดำ ที่ลักลอบตั้งฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใน จ.ชลบุรี ได้แล้ว จึงขยายผลยึดทรัพย์อย่างต่อเนื่อง


     

    โดยล่าสุด ได้รวบรวมหลักฐานออกหมายจับกลุ่มผู้กระทำผิด 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มพนักงานออฟฟิศ จำนวน 11 คน 2.กลุ่มบัญชีม้า (รวมจัดหาบัญชี,ยิงแอดโฆษณา) จำนวน 15 คน และ 3.กลุ่มบอส หรือระดับสั่งการ และเครือข่ายฟอกเงิน จำนวน 9 คน รวมออกหมายจับทั้งหมด 35 คน จับกุมได้แล้ว 20 คน อยู่ระหว่างติดตามจับกุม 15 คน ซึ่งบางส่วนหลบหนีออกนอกประเทศ ซึ่งอยู่ในกระบวนการติดตามจับกุม

    จากการสืบสวนสอบสวนเครือข่าย แก๊งค์แปลงเงินที่ได้มาจากการหลอกลวงประชาชน เป็นสินทรัพย์ดิจิทัล คริปโทเคอเรนซี (Cryptocurrency) จากนั้นจะโอนต่อไปยังบิ๊กแรก รรท.ผบช.ภ.2 ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ “มังกรเทาดำ” จับเพิ่ม 4 สมาชิกแก๊ง รับบทนอมินีเปิดบริษัทฟอกเงิน ยึดทรัพย์คฤหาสน์ รถหรู 152 ล้านบาท

      วันที่ 13 ธ.ค.67 พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รรท.ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 แถลงผลการทลายเครือข่ายมังกรเทาดำ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เหิมเกริมเปิดออฟฟิศในทาวน์เฮ้าส์แห่งหนึ่งใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งเคยจับกุมได้เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567 



    ต่อมา กองบังคับการสืบสวนสวนตำรวจภูธรภาค 2 ขยายผลจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายฟอกเงินเพิ่มอีก 4 ราย เป็นชาวไทย 3 ราย ชาวจีน 1 ราย ยึดทรัพย์รวมมูลค่า 152 ล้านบาท

   พล.ต.ท.ยิ่งยศ เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ให้ความสำคัญในการสืบสวนขยายผลแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ดังนั้นหลังจากทลายจับกุมแก๊งมังกรเทาดำ ที่ลักลอบตั้งฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใน จ.ชลบุรี ได้แล้ว จึงขยายผลยึดทรัพย์อย่างต่อเนื่อง     

    โดยล่าสุด ได้รวบรวมหลักฐานออกหมายจับกลุ่มผู้กระทำผิด 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มพนักงานออฟฟิศ จำนวน 11 คน 2.กลุ่มบัญชีม้า (รวมจัดหาบัญชี,ยิงแอดโฆษณา) จำนวน 15 คน และ 3.กลุ่มบอส หรือระดับสั่งการ และเครือข่ายฟอกเงิน จำนวน 9 คน รวมออกหมายจับทั้งหมด 35 คน จับกุมได้แล้ว 20 คน อยู่ระหว่างติดตามจับกุม 15 คน ซึ่งบางส่วนหลบหนีออกนอกประเทศ ซึ่งอยู่ในกระบวนการติดตามจับกุม



    จากการสืบสวนสอบสวนเครือข่าย แก๊งค์แปลงเงินที่ได้มาจากการหลอกลวงประชาชน เป็นสินทรัพย์ดิจิทัล คริปโทเคอเรนซี (Cryptocurrency) จากนั้นจะโอนต่อไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลนิรนามต่างๆ และยังพบว่าตัวการระดับสั่งการ ซึ่งเป็นชาวจีน นำเงินที่ได้จากการหลอกลวงประชาชนบางส่วนมาใช้ในประเทศไทย โดยใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ซื้อบ้านหรู รถยนต์ ทรัพย์สินต่างๆ รวมถึงประกอบกิจการในนาม บริษัท นอมินี โดยใช้บริษัทนอมินี ที่เปิดขึ้นมาซื้อและถือครองทรัพย์สินประเภทอสังหาริมทรัพย์ 



    จึงได้ประสานงานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ปปง. ตรวจสอบ นำไปสู่การติดตามจับกุม และตรวจสอบยึดทรัพย์สิน ดำเนินการตามกฎหมาย” รรท. ผบช.ภ.2 กล่าว

     นอกจากนี้ พล.ต.ท.ยิ่งยศ ยังกล่าวต่ออีกว่า ในระหว่างวันที่ 12 – 13 ธันวาคม 2567 ได้ติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายฟอกเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์มังกรเทาดำ เพิ่มเติม 4 ราย เป็นชาวไทย 3 ราย คนจีน 1 ราย และตรวจยึดทรัพย์สินที่สำคัญดังนี้  

1.บ้านหรู เนื้อที่ 3 งาน 12.5 ตรว. ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มูลค่า 65 ล้านบาท 

2. บ้านหรู เนื้อที่ 3 งาน 6.2 ตรว. ม.10 ต.หนองหรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มูลค่า 75 ล้านบาท 

3. รถยนต์ LEXUS สีขาว มูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท 

4. รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อเบนซ์ สีขาว มูลค่า 3.5 ล้านบาท 

5. รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมาสด้า 2 สีดำ มูลค่า 4 แสนบาท 

และทรัพย์สินอื่นๆ รวมทั้งหมดมูลค่า กว่า 152 ล้านบาท 

    พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวย้ำว่า ได้เร่งรัดขยายผลติดตามจับกุมดำเนินคดีกับเครือข่ายกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป และขอให้คนไทยที่คิดจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เช่น รับจ้างเปิดบัญชี เป็นธุระจัดหาซิมผีบัญชีม้า รวมถึงการเข้าไปร่วมทำธุรกิจหรือถือครองทรัพย์สิน ซึ่งอาจเข้าข่ายนอมินี จะมีความผิดตามกฎหมาย นอกจากความผิดเรื่องคอลเซ็นเตอร์แล้ว ยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 และ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 ด้วย 

   ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งข้อมูล เบาะแส ชาวต่างชาติ หรือคนไทยต้องสงสัยว่าจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก ตำรวจภูธรภาค 2

กระเป๋าเงินดิจิทัลนิรนามต่างๆ และยังพบว่าตัวการระดับสั่งการ ซึ่งเป็นชาวจีน นำเงินที่ได้จากการหลอกลวงประชาชนบางส่วนมาใช้ในประเทศไทย โดยใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ซื้อบ้านหรู รถยนต์ ทรัพย์สินต่างๆ รวมถึงประกอบกิจการในนาม บริษัท นอมินี โดยใช้บริษัทนอมินี ที่เปิดขึ้นมาซื้อและถือครองทรัพย์สินประเภทอสังหาริมทรัพย์ 



    จึงได้ประสานงานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ปปง. ตรวจสอบ นำไปสู่การติดตามจับกุม และตรวจสอบยึดทรัพย์สิน ดำเนินการตามกฎหมาย” รรท. ผบช.ภ.2 กล่าว

     นอกจากนี้ พล.ต.ท.ยิ่งยศ ยังกล่าวต่ออีกว่า ในระหว่างวันที่ 12 – 13 ธันวาคม 2567 ได้ติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายฟอกเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์มังกรเทาดำ เพิ่มเติม 4 ราย เป็นชาวไทย 3 ราย คนจีน 1 ราย และตรวจยึดทรัพย์สินที่สำคัญดังนี้  

1.บ้านหรู เนื้อที่ 3 งาน 12.5 ตรว. ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มูลค่า 65 ล้านบาท 

2. บ้านหรู เนื้อที่ 3 งาน 6.2 ตรว. ม.10 ต.หนองหรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มูลค่า 75 ล้านบาท 

3. รถยนต์ LEXUS สีขาว มูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท 

4. รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อเบนซ์ สีขาว มูลค่า 3.5 ล้านบาท 

5. รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมาสด้า 2 สีดำ มูลค่า 4 แสนบาท 

และทรัพย์สินอื่นๆ รวมทั้งหมดมูลค่า กว่า 152 ล้านบาท 

    พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวย้ำว่า ได้เร่งรัดขยายผลติดตามจับกุมดำเนินคดีกับเครือข่ายกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป และขอให้คนไทยที่คิดจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เช่น รับจ้างเปิดบัญชี เป็นธุระจัดหาซิมผีบัญชีม้า รวมถึงการเข้าไปร่วมทำธุรกิจหรือถือครองทรัพย์สิน ซึ่งอาจเข้าข่ายนอมินี จะมีความผิดตามกฎหมาย นอกจากความผิดเรื่องคอลเซ็นเตอร์แล้ว ยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 และ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 ด้วย 

   ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งข้อมูล เบาะแส ชาวต่างชาติ หรือคนไทยต้องสงสัยว่าจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก ตำรวจภูธรภาค 2

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น