วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2567

 บริษัท คะตะลิสต์ จำกัด วิสาหกิจเพื่อสังคม จัดงานมอบรางวัลผู้ประกอบการขับเคลื่อนอาหารยั่งยืนและการใช้ไข่ไก่ที่เลี้ยงแบบไม่ขังกรงตับ ครั้งที่ 2



บริษัท คะตะลิสต์ จำกัด วิสาหกิจเพื่อสังคม จัดงานมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับผู้ประกอบการที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนด้านอาหารยั่งยืน (Sustainable Food) และสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) ผ่านการใช้ไข่ไก่ที่เลี้ยงแบบไม่ขังกรงตับ (Cage-Free Eggs) ในวันศุกร์ที่ 27 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 12.30 น. ณ โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้รับเกียรติจากคุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วี ฟูดส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งมีตัวแทนจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร โรงแรม และค้าปลีก เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง




ภายในงานมีการมอบโล่รางวัลและประกาศเกียรติคุณแก่ธุรกิจและองค์กรที่เป็นแบบอย่างในการประกาศนโยบายใช้ไข่ไก่ที่เลี้ยงแบบไม่ขังกรงตับ และยึดมั่นในจริยธรรมการผลิตอาหารที่มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและจริยธรรมต่อสัตว์ โดยมีตัวอย่างผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลเป็นธุรกิจและองค์กรที่มุ่งมั่นในการใช้ไข่ไก่ที่เลี้ยงแบบไม่ขังกรงตับ และฟาร์มที่เป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงการเลี้ยงไก่โดยไม่ขังกรงตับ




นายแพทย์วัชระ พุ่มประดิษฐ์ ผู้อำนวยการบริษัท คะตะลิสต์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ทำงานภายใต้แนวคิดวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) โดยมีพันธกิจหลักในการพัฒนาสวัสดิภาพสัตว์ในระบบอาหาร และส่งเสริมแนวทางการผลิตอาหารที่ยั่งยืน ซึ่งเน้นถึงความเป็นมิตรกับสัตว์ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพของผู้บริโภคในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน




นายแพทย์วัชระกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันผู้บริโภคทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกเริ่มตื่นตัวและเล็งเห็นถึงปัญหาของการเลี้ยงไก่ในระบบกรงตับ (Battery Cage) ซึ่งเป็นการบังคับให้แม่ไก่อยู่ในพื้นที่คับแคบ ขยับตัวแทบไม่ได้ และไม่สามารถแสดงออกซึ่งพฤติกรรมตามธรรมชาติได้เลยตลอดชีวิต ระบบกรงตับนี้เป็นการละเมิดหลักการอิสระ 5 ประการ (Five Freedoms) ซึ่งเป็นจริยธรรมสากลในการปฏิบัติต่อสัตว์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของมนุษย์ นอกจากนี้ จากการศึกษาของหลายประเทศในสหภาพยุโรปพบว่าระบบนี้ไม่เพียงแต่เป็นการละเมิดจริยธรรมเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภคด้วย เช่น การใช้ยาปฏิชีวนะในปริมาณมากเพื่อป้องกันโรคที่เกิดจากความเครียดและสภาพความเป็นอยู่ของแม่ไก่ที่แออัด การใช้ยาปฏิชีวนะแบบนี้ยังนำไปสู่ปัญหาการดื้อยาที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก



อีกทั้ง การเลี้ยงแม่ไก่ในพื้นที่คับแคบเช่นนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาดใหญ่ (Pandemic) เช่น ไข้หวัดนก ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นและส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตผู้คนและเศรษฐกิจโลกอย่างที่เห็นจากสถานการณ์ที่ผ่านมา


นายแพทย์วัชระยังได้เน้นว่า ด้วยกระแสความตื่นตัวของผู้บริโภคทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ บริษัท คะตะลิสต์ จำกัด วิสาหกิจเพื่อสังคม จึงได้สร้างความร่วมมือกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับภาคเกษตรกรรมของไทยและภูมิภาคอาเซียนในการยกระดับมาตรฐานฟาร์มไก่ไข่สู่ระบบเลี้ยงแบบไม่ขังกรง โดยการให้การอบรมและถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีการผลิตไข่ไก่ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป



นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังร่วมมือกับภาคธุรกิจอาหาร โรงแรม ค้าปลีก และองค์กรในการประกาศพันธะสัญญาในการเปลี่ยนไปใช้ไข่ไก่ไร้กรง เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบอาหารที่ยั่งยืนในประเทศไทย ธุรกิจและองค์กรเหล่านี้นับเป็นแบบอย่างที่ดีในการรับผิดชอบต่อสังคม และยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีในสังคมไทย



ปัจจุบันสังคมโลกกำลังเรียกร้องให้เราดำเนินชีวิตอย่างเคารพต่อธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ โดยยึดมั่นในแนวคิด 'Lead the Way to a Kinder World' ซึ่งเป็นหลักการที่บริษัท คะตะลิสต์ ขับเคลื่อนเพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับทุกชีวิต  เราขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเฉลิมฉลอง ให้กับ ผู้ประกอบการ องค์กร ที่เป็นผู้นำในการทำธุรกิจอย่างมีจริยธรรมต่อ คน สัตว์และสิ่งแวดล้อม


ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการไข่ไก่ที่เลี้ยงแบบไม่ขังกรง สามารถติดต่อได้ที่ คุณณิชามน แสงเดือน โทร. 098-156-3269


____


#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น