ได้ผู้รับเหมาใหม่ ทำสัญญาก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอก รพ.สุราษฎร์ธานี ที่สร้างไม่เสร็จอีกครั้ง โดยตามสัญญาจะเสร็จสิ้นภายในปี 2569
จากกรณีโครงการจ้างก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอก (ระดับตติยภูมิ ) เป็นอาคาร คสล. 9 ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ 31,420 ตารางเมตร (โครงสร้างต้านแผ่นดินไหว) ของ โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อสร้างตามสัญญาจ้างเลขที่ ๒๘๙/๒๕๕๙ ลงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๙ วงเงินตามสัญญาจ้างเป็นเงิน 523,419,125.73 บาท โดยแบ่งงวดงานงวดเงินออกเป็น ๓๔ งวด กำหนดงานแล้วเสร็จไม่เกิน 1,366 วัน กำหนดแล้วเสร็จภายในวันที่ 27 เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2562 แต่ผู้รับจ้างไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จจนต้องยกเลิกสัญญาจ้างและหยุดการก่อสร้างมาจนถึงปัจจุบัน
ล่าสุดเมื่อเวลา 09:00 น. วันที่ 20 ส.ค.67 ที่ ห้องประชุมใหญ่ ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก ชั้น 3 อาคารศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายแพทย์จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ นายแพทย์สามาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี น.ส.กานสินี โอภาสรังสรรค์ สส.เขต1 จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายจักรกฤษณ์ พงษ์ประเสริฐ ตัวแทน บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) ได้ทำพิธีลงนามในข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) 3 ฝ่ายร่วมลงนามการก่อสร้างอาคารส่วนที่เหลือ ซึ่งบริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด ยื่นขอเสนอราคาต่ำสุด พร้อมก่อสร้างอาคารส่วนที่เหลือในราคา 324, 950,000 บาท
นายแพทย์จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ นายแพทย์สามาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กล่าวในพิธีลงนามว่า การดำเนินการก่อสร้างอาคาร ผู้ป่วยนอก (ระดับตติยภู มิ ) เป็นอาคาร คสล. 9 ชั้น ของโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีนั้น ที่ผ่านมาก็มีการดำเนินงานด้วยความโปร่งใส่ทุกกระบวนการ จนบริษัทผู้รับจ้างเก่าเกิดปัญหาทางการเงินถูกฟ้องล้มละลาย จึงเกิดความชักงัดไปเป็นระยะเวลานานพอสมควร ซึ่งตอนนี้ได้ผู้รับจ้างใหม่ซึ่งตั้งเป้าดำเนินการก่อสร้างเสร็จสิ้นภายในปี 2569 นี้ เพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวสุราษฎร์ฯและใกล้เคียงได้ใช้บริการด้านสาธารณสุขที่สมบูรณ์แบบไม่แออัดอีกต่อไป
ด้านนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็กล่าวว่าทันทีที่มารับตำแหน่งที่สุราษฎร์ธานีเมื่อตุลาคมปี 66 ก็ได้รับเรื่องให้ช่วยแก้ปัญหาการก่อสร้างอาคารหลังนี้ทันที ซึ่งก็ได้ประสานงานกับส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง จนสามารถนำไปสู่การประกาศจัดซื้อจัดจ้างในส่วนที่เหลือได้อีกครั้ง พร้อมย้ำขอให้ผู้รับจ้างรายใหม่ช่วยสร้างอาคารแห่งความหวังของชาวสุราษฎร์ธานีในการดูแลสุขภาพให้แล้วเสร็จตามสัญญา
ด้าน น.ส.กานสินี กล่าวว่า ตนเองได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องสถานพยาบาลมาโดยตลอดโดยเฉพาะโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีซึ่งถือว่าเป็นโรงพยาบาลศูนย์ของภาคใต้ตอนบน และที่ผ่านมาตนเองรับทราบถึงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารดังกล่าวมาโดยตลอด จึงได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในสภาเพื่อของให้เร่งดำเนินการจนผ่านความเห็นชอบ และได้ลงพื้นที่ร่วมหารือกับนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี จนสามารถหาบริษัทเข้าดำเนินการก่อสร้างและในวันนี้ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง(MOU)กันเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งคาดว่ากำหนดก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในปี2569
ส่วนนายจักรกฤษณ์ พงษ์ประเสริฐ ตัวแทน บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในส่วนของบริษัท มีความพร้อมในการดำเนินงาน ที่ผ่านมาก็ก่อสร้างอาคารให้กับโรงพยาบาลในภาคใต้หลายแห่ง และปัจจุบันก็กำลังก่อสร้างอาคารให้โรงพยาบาลเอกชนในสุราษฎร์ธานีด้วย ก็จะเป็นโอกาสดีในการใช้บุคคลากรเร่งดำเนินการก่อสร้างอาคารหลังนี้ให้แล้วเสร็จตามสัญญา
สำหรับโครงการจ้างก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอก (ระดับตติยภูมิ ) เป็นอาคาร คสล. 9 ชั้น ของโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ได้รับงบประมาณ ปี 2559 ผูกพันปี 2560 และปี 2561 เพื่อก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอก (ระดับตติยภูมิ ) เป็นอาคาร คสล. 9 ชั้น พื้นที่ใช้ สอยประมาณ 31420 ตารางเมตร (โครงสร้างต้านแผ่นดินไหว) โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมืองสุ ราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี 1 หลังเป็นเงิน 607,494,000 บาท จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ จ้างก่อสร้าง ได้จ้าง บริษัทเสรีการโยธา จำกัด ก่อสร้างตามสัญญาจ้างเลขที่ 289/2559 ลงวันที่ 31 มีนาคม 2559 วงเงินตามสัญญาจ้างเป็นเงิน 523,419,125.73 บาท โดยแบ่งงวดงานงวดเงินออกเป็น ๓๔ งวด กำหนดงานแล้วเสร็จไม่เกิน 1,366 วัน กำหนดแล้วเสร็จภายในวันที่ 27 เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2562 เมื่อผู้รับจ้างไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามกำหนดได้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้ บอกเลิกสัญญาจ้าง บริษัท เสรี การโยธา จำกัดเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2565 ขณะบอกเลิกสัญญาผู้รับจ้างได้ ดำเนินการก่อสร้าง อาคารไปแล้ว 17 งวดจากทั้งหมด 34 งวด โดยมีการเบิกจ่ายเงินค่าก่อสร้างไปแล้วเป็นเงิน 265,372,096.78 บาท คิดเป็นร้อยละ 50.70 ของวงเงินค่าจ้างตามสัญญา
ต่อมาจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เริ่มประกวดราคาจ้างโครงการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอก ส่วนที่เหลือ โดยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ( e-bidding) เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 งบประมาโครงการ 313,264,688.49 บาท กำหนดงวดงานงวดเงินเป็น 16 งวด กำหนดระยะเวลาดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 510 วัน ใช้ ราคากลางที่ได้ คำนวณ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2566 เป็นเงินทั้งสิ้น 342,310,000 บาทกำหนดวันเสนอราคา วันที่ 1 มีนาคม 2567 ได้พิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ วันที่ 4 มีนาคม2567 ปรากฏว่ามีผู้ยื่นเสนอราคาถูกต้อง 2 ราย โดยมีบริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ยื่นข้อเสนอราคาต่ำสุด เสนอราคารวมเป็นเงิน 325,000,000 บาท คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาฯได้ต่อรองราคาผ่านระบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์กับผู้ยื่นข้อเสนอราคาต่ำสุด ผู้ยื่นข้อเสนอยินดีลดราคาลงโดยราคาที่เสนอใหม่ เป็นเงิน 324, 950,000 บาท ทันทีที่ การประกวดราคาได้ ผู้ยื่นข้อเสนอถูกต้องแล้วจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เสนอสำนักงบประมาณ เพื่อขอความเห็นชอบความเหมาะสมของราคาค่าก่อสร้างเสนอรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขออนุมัติ ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปี งบประมาณและเสนอปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอความเห็นชอบผลการพิจารณาการประกวดราคา และอนุมัติสั่งจ้างก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอกฯ (ส่วนที่เหลือ) จนเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งผลการเห็นชอบในเรื่องดังกล่าว จึงได้นำมาประกาศผู้ชนะการเสนอราคาและแจ้งให้ผู้ชนะการประกวดราคามาทำสัญญา โดยเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2567 ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ลงนามในสัญญาจ้างตามสัญญาจ้างเลขที่ 337/2567 ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2567 แล้ว
โครงการจ้างก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอก (ระดับตติยภูมิ ) เป็นอาคาร คสล. 9 ชั้น เป็นโครงการที่ได้ รับคัดเลือกให้เข้าร่วมข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) มาตั้งแต่เริ่มโครงการในปี 2559 โดยให้มีผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมสังเกตการณ์ในการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารสัญญาทุกขั้นตอน และมีการลงนามในข้อตกลงคุณธรรม(Integrity Pact) ๓ ฝ่าย ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเจ้าของโครงการ ผู้สังเกตการณ์ และผู้ รับจ้าง โดยเมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ลงนามในสัญญาจ้างก่อสร้างส่วนที่ เหลือครั้งใหม่แล้ว จึงจัดให้มี การจัดการลงนามในข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) ๓ ฝ่ายขึ้นอีกครั้งในวันนี้ ให้มีผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมสังเกตการณ์ในการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารสัญญาทุกขั้นตอนต่อไป
//////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น