วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2567

 **ข่าวประชาสัมพันธ์สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร์** 

23 ส.ค. 67 เวลา 11.30 น. ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา 



นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินงานขับเคลื่อนไปสู่รัฐสภาสีเขียว (Green Parliament) พร้อมด้วย

คณะกรรมการฯ แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อ

ประกาศเจตนารมณ์ รัฐสภาสีเขียวมุ่งสู่การเป็น Net Zero ภายในปี ค.ศ. 2032 (พ.ศ. 2575) 



ถือเป็นต้นแบบของหน่วยงานภาครัฐของประเทศสำหรับการใช้พลังงานที่ได้มาจากธรรมชาติ ทำให้ประเทศไทยสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และจะดึงดูดการลงทุนของภาคเอกชนจากต่างประเทศ และนำมาสู่การท่องเที่ยว ทั้งนี้ การลดก๊าซเรือนกระจกดังกล่าว ไม่ได้เป็นแค่เรื่องการป้องกันภัยพิบัติเท่านั้น แต่เป็นการสร้างโอกาสให้กับคนไทยในด้านอาชีพใหม่ ๆ มากมาย ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่า สภาพอากาศ อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นคลื่นความร้อนที่สูงขึ้นทั่วโลก ปัญหาไฟป่า ปัญหาฝุ่น  หมอกควัน ปัญหาระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น โดย เลขาธิการสหประชาชาติ ได้ออกแถลงการณ์ว่า ยุคโลกเดือดมาถึงแล้ว หลายประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญในประเด็นนี้เป็นอย่างมาก และประเทศไทยได้เข้าร่วมประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วย

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ



รัฐสภาไทย ในฐานะเป็นศูนย์กลาง

ฝ่ายนิติบัญญัติของประเทศ ได้กำหนดแผนการดำเนินงานของ

ส่วนงานรัฐสภา โดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ประกาศนโยบายสิ่งแวดล้อม "รัฐสภามีความตั้งใจ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาสู่การเป็นรัฐสภาสีเขียว (Green Parliament)" ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติของประเทศไทย เริ่มขับเคลื่อนการดำเนินงานต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การเป็นรัฐสภาสีเขียว โดยตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้น เพื่อศึกษาแนวทางและการดำเนินงานของหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งด้านนโยบาย การบริหารจัดการด้านการลดปริมาณการปล่อยมลพิษและก๊าซเรือนกระจก และด้านความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 


บัดนี้ "แผนแม่บทการขับเคลื่อนไปสู่

รัฐสภาสีเขียว (Green Parliament) ค.ศ. 2025 - 2032" ดำเนินการจัดทำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงนำไปสู่การจัดงานสัมมนาที่จะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 23 ก.ย. 67 ณ  อาคารรัฐสภา โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการสัมมนา ในโอกาสนี้ จึงขอเชิญชวนสื่อมวลชนและประชาชนที่สนใจเข้าร่วมการสัมมนาดังกล่าว  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น