วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2567

อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา วางมาตรการป้องกันและปราบปรามน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ ด้านผู้ว่าฯ สงขลาเน้นย้ำพี่น้องประชาชน หากพบเบาะแสการกระทำความผิด แจ้งสายด่วน 1567 ทันทีได้ตลอด 24 ชม.

 อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา วางมาตรการป้องกันและปราบปรามน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ ด้านผู้ว่าฯ สงขลาเน้นย้ำพี่น้องประชาชน หากพบเบาะแสการกระทำความผิด แจ้งสายด่วน 1567 ทันทีได้ตลอด 24 ชม.

.



วันนี้ (24 มิ.ย.67) นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยถึง การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ว่าในบริเวณพื้นที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา มีการจำหน่ายน้ำมันที่นำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย (น้ำมันเถื่อน) บริเวณใจกลางเมืองสะเดา และบริเวณริมถนนขาเข้าและขาออก บริเวณบ้านจังโหลน ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่งมีการวางจำหน่ายตั้งแต่บริเวณพื้นที่ตำบลปริก ตำบลสะเดา และตำบลสำนักขาม ลักษณะการวางจำหน่ายจะมีการตั้งเป็นแบบขวดขนาด 1 ลิตร และแกลลอนขนาด 10 ลิตร บรรจุน้ำมันที่นำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย(น้ำมันเถื่อน) ทั้งเบนซิน 97 และน้ำมันดีเซล(โซล่า) มีการจำหน่ายให้กับประชาชนที่สัญจรผ่านไป – มา ณ บริเวณดังกล่าว 






“อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการป้องกันและปราบปรามการค้าน้ำมันเถื่อนในพื้นที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรสะเดา, สถานีตำรวจภูธรปาดังเบซาร์, สถานีตำรวจภูธรคลองแงะ เจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5, กองร้อยทหารราบที่ 5021 และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สงขลา สาขาสะเดา เข้าร่วมประชุมชี้แจงแนวทางการปฏิบัติการวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้าน้ำมันเถื่อนในพื้นที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา” นายสมนึกฯ กล่าวในช่วงต้น

.


นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวต่ออีกว่า สำหรับแนวทางการปฏิบัติการวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้าน้ำมันเถื่อนในพื้นที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ที่ประชุมที่มี การพูดคุยปรึกษาหารือ ร่วมกันคิด ร่วมกันระดมสมองจนเป็น มาตรการการจำหน่ายน้ำมันที่นำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย (น้ำมันเถื่อน) ดังนี้ 1) การตั้งจุดตรวจ จุดสกัด (POP UP) ทั้งประจำจุด และไม่ประจำจุด ในการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าน้ำมันนำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย(น้ำมันเถื่อน) จากประเทศเพื่อนบ้านที่มีราคาถูกกว่าภายในประเทศเข้ามาจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย 2) การสืบสวนหาข่าวของขบวนการ หรือกลุ่มนายทุนที่พยายามมีการลักลอบนำเข้าน้ำมันมาตามช่องทางต่างๆ เช่นใช้รถบรรทุก หรือรถยนต์ส่วนบุคคลในการลักลอบนำเข้าน้ำมันนำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย(น้ำมันเถื่อน) ทั้งทางช่องธรรมชาติ หรือทางด่านศุลกากรสะเดา และด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ 3) การบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ที่จะลักลอบจำหน่ายน้ำมันนำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย(น้ำมันเถื่อน) ทุกราย โดยเฉพาะที่มีการลักลอบจำหน่ายบริเวณทางเท้า หรือบริเวณ 2 ข้างถนน และร้านค้าโดยทั่วไป 4) ให้ทุกหน่วยงานรายงานผลการปฏิบัติการดำเนินการป้องกันและปราบปรามการค้าน้ำมันเถื่อนในพื้นที่อำเภอสะเดา ในที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการอำเภอสะเดา เป็นประจำทุกเดือน และรายงานให้อำเภอสะเดาทราบ

.



นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลการปฏิบัติในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าน้ำมันนำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย(น้ำมันเถื่อน) ในห้วงเวลา 3 เดือนที่ผ่าน จากการบูรณาการร่วมทุกหน่วยงานในพื้นที่อำเภอสะเดา มีผลการปฏิบัติ พบว่าในห้วงเดือน ประจำเดือนมกราคม ถึงเดือนพฤษภาคม 2567 มีสถิติในการจับกุมน้ำมันเถื่อน ได้ 132 คดี ได้ค่าปรับจำนวน 4,211,771.20 บาท โดยปริมาณน้ำมันดีเซล(ของกลาง) จำนวน 103,646 ลิตร และปริมาณน้ำมันเบนซิน(ของกลาง) จำนวน 8,200 ลิตร



“จังหวัดสงขลา มุ่งมั่นจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและแก้ไขปัญหายาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย ตามนโยบายเร่งด่วน (Quick win) ของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย เพื่อความสงบเรียบร้อยของสังคมอย่างต่อเนื่อง ด้วยการจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มุ่งขจัดยาเสพติดและ สิ่งผิดกฎหมายให้หมดไป ด้วยการมุ่งเป้า Re X-Ray พื้นที่เป้าหมายสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะปัญหาน้ำมันเถื่อน ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ที่จะทำให้พี่น้องประชาชนมีการใช้น้ำมันที่คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน ตามที่รัฐกำหนด ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน และผลกระทบทางอ้อมซึ่งอาจเกิดปัญหาต่อสุขภาพ อนามัย และก่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้เสียภาษีที่ถูกต้อง ซึ่งตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองยกระดับความเข้มข้นในการลาดตระเวน ซึ่งจังหวัดสงขลาได้บูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อเพิ่มความเข้มข้นเสาะหาสิ่งผิดกฎหมายที่อาจถูกซุกซ่อนอยู่ พร้อมขยายผลนำไปสู่การตัดวงจรของสิ่งผิดกฎหมายทุกประเภท เพื่อให้สังคมมีความสงบเรียบร้อย เกิดสวัสดิภาพ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน เป็นสังคมที่น่าอยู่“ นายสมนึกฯ กล่าวทิ้งท้าย



#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข


กองสารนิเทศ สป.มท.

ครั้งที่ /2567

วันที่ 24 มิ.ย. 67

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น