ท่องเที่ยวภารตะโต! บูมอีก 2 ล้าน เปิดอย่างเป็นทางการ Odissi Spice Indian Food Hub Pattaya

 ท่องเที่ยวภารตะโต! บูมอีก 2 ล้าน เปิดอย่างเป็นทางการ Odissi Spice Indian Food Hub Pattaya 

วันที่ 28 มิ.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการสำหรับร้าน Odissi Spice Indian Food Hub Pattaya ร้านอาหารอินเดียแห่งใหม่ในเมืองพัทยา เลขที่ 385/29 ม.10 ถนนทัพพระยา พัทยาใต้ จ.ชลบุรี โดยในพิธีได้รับเกียรติจากนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เป็นประธานเปิดร้านอย่างเป็นทางการและร่วมมอบดอกไม้แสดงความยินดี

ทั้งนี้ ภานในงานยังมีแขกเหรื่อจำนวนมากเข้าร่วมแสดงความยินดีกับนายเคบี มาฮานตะ รองนายกสมาคมอินเดียพัทยา ในฐานะผู้บริหารร้าน Odissi Spice Indian Food Hub Pattaya อาทิเช่น นายลักษมัณ ซิงค์ นายกสมาคมอินเดียพัทยา นายสุขราช กาลรา ประธานชุมชนวอล์กกิ้งสตรีท ญาติสนิทมิตรสหาย ตลอดจนกลุ่มเพื่อนนักธุรกิจชาวอินเดีย

สำหรับร้าน Odissi Spice Indian Food Hub Pattaya เกิดขึ้นจากการที่ผู้บริหารได้เล็งเห็นถึงการเติบโตของนักท่องเที่ยวชาวอินเดียที่ติด 1 ใน 5 อันดับสูงสุดของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามายังประเทศไทย ซึ่งเมืองพัทยาก็เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกที่รู้จักกันดีและเป็นจุดหมายทางการท่องเที่ยวของชาวอินเดียเช่นกัน ซึ่งเชื่อว่าแนวโน้มจะดีขึ้นตามลำดับ

ทั้งนี้ ทางคณะผู้บริหารจึงได้ลงทุนรวมกว่า 2 ล้านบาท เปิดเป็นร้านอาหารอินเดียแบบครบวงจรด้วยรสชาติแบบต้นฉบับอย่างแท้จริง โดยจะเปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00 น.-23.00 น. ไม่มีวันหยุด นอกจากนี้ทางร้านยังบริการรับจัดเลี้ยง จัดงานสังสรรค์ต่างๆ ตามแบบฉบับอินเดีย โดยสามารถรองรับลูกค้าได้ประมาณ 50-60 คน โทรศัพท์สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ 083-460 4368 หรือ 088-628 0665 

สวนนงนุชพัทยา ต้อนรับเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งมองโกเลีย ประจำประเทศไทย พร้อมคณะ ร่วมกันปลูกต้นไม้และเข้าเยี่ยมชมสวน

  สวนนงนุชพัทยา ต้อนรับเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งมองโกเลีย ประจำประเทศไทย พร้อมคณะ ร่วมกันปลูกต้นไม้และเข้าเยี่ยมชมสวน

     วันนี้ 29 มิ.ย.67 นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา ต้อนรับนายทูมูร์ อามาร์ซานา (H.E. Mr. Tumur Amarsanaa) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งมองโกเลีย ประจำประเทศไทย  และผู้อำนวยการกองเอกสิทธิ์ กรมพิธีการทูต กระทรวงต่างประเทศ ร้อยโทบรรพต อุชชิน เข้าเยี่มชมและร่วมปลูกต้นไม้                  โอกาสนี้ ทางเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งมองโกเลีย ประจำประเทศ ได้ปลูกต้นตาเสือ ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก-กลาง อาจสูงถึง 18 เมตร พบได้ในจีนตอนใต้ อินเดีย ศรีลังกา ไทย และแถบเอเชียตะวันออก ณ สวนรุกขชาติแห่งนี้ ที่ทางสวนนงนุชพัทยา ได้ขออนุญาติจาก กรมป่าไม้จำนวน 43 ไร่ เพื่อรวบรวมพันธุ์ไม้และปลูกไม้ยืนต้นที่มีมูลค่าและหายากจากทั่วทุกมุมโลก

     ทั้งนี้ สวนนงนุชพัทยาจัดทำสวนรุกขชาตินี้ให้แก่ประเทศไทย และเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ในด้านพฤษศาสตร์ บนพื้นที่ขออนุญาตจากกรมป่าไม้   ซึ่งค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ การเก็บรวบรวม การปลูกพันธุ์ไม้และการดูแลบำรุงรักษา ทั้งหมดนี้ สวนนงนุชพัทยาเป็นผู้รับผิดชอบ

 

    หลังจากนั้น ได้เยี่ยมชมสวนสวยมากว่า 50 สวน บนเนื้อที่ 1,700 ไร่ สร้างความประทับใจให้แก่ทางคณะเป็นอย่างมาก

นิราช/นัน พล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี 909535645

บุรีรัมย์ ชาวบ้านโวยเทศบาลชุ่ย ทิ้งขยะเกลื่อนไฟลามไหม้สวนยางเสียหาย

 บุรีรัมย์ ชาวบ้านโวยเทศบาลชุ่ย ทิ้งขยะเกลื่อนไฟลามไหม้สวนยางเสียหาย

อำเภอบ้านกรวด//เกษตรกรชาวสวนยางโวย เทศบาลหนองไม้งาม เอาขยะไปทิ้งมั่วบนที่สูงกว่าไร่นาของชาวบ้าน ฝนตกน้ำเน่าบ่าไหลลงมา ได้จังหวะจุดไฟเผาขยะ ล่าสุดลามไหม้ไร่ยางพารา เกษตรกรเสียหาย 8 ไร่ เอาเงินเยียวยา 8,000 บาท เจ้าของไร่รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมร้องสื่อต้องการความจริง”เยียวยาแค่นี้จริงเหรอ”

วันที่ 28 มิ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกร ต.บึงเจริญ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเทศบาลหนองไม้งาม อยากให้เป็นสื่อกลางหาความเป็นธรรม หลังจากไฟจากที่ทิ้งขยะของเทศบาลลามไหม้สวนยางพารา

ตรวจสอบพบว่าไร่ยางพาราดังกล่าวเป็นของ น.ส. อนุธิดา เสนาประโคน อายุ36ปี บ้านเลขที่ 6  ม.1 ต.บึงเจริญ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ได้นำคลิปภาพขณะไฟไหม้และสภาพความเสียหายของสวนยางมาเป็นหลักฐาน

น.ส.อนุธิดา เล่าว่าตนมีสวนยางพาราที่กรีดได้จำนวน 8 ไร่ ในช่วงที่กรีดยางจะมีรายได้เฉลี่ยเดือนละประมาณ 45,000 บาท ก่อนหน้านี้ชาวบ้านมาบอกว่าไฟไหม้สวนยางของตน จึงรีบไปดูกับสามี แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะไฟได้ลุกลามไปเป็นวงกล้าง

พอรุ่งเช้าไปดูไฟก็ยังไม่ดับพยายามประสานเทศบาลหนองไม้งาม เพื่อขอให้เอารถน้ำมาดับไฟไหม้ แต่ไม่มีใครสนใจ จนกระทั่งไฟดับเอง สรุปไฟไหม้ยางพาราสวนยางทั้ง 8 ไร่ 

สาเหตุมาจากไฟลามมาจากกองขยะของเทศบาลหนองไม้งาม แล้วมาลุกลามไหม้ยางพาราของตน เมื่อไปติดต่อเทศบาลฯปรากฎว่าเทศบาลมีมติให้ชดเชยค่าเสียหายเป็นเงิน 8,000 บาท ตนมองว่าไม่มีความเป็นธรรม

น.ส.อนุธิดา เล่าด้วยว่า หากดูด้วยสายตาต้นยางพารา ยังไม่เสียหายสิ้นเชิง แต่สิ่งที่เสียไปแล้วคือถ้วยรองน้ำยางจำนวน 800 ใบคิดเป็นเงินกว่า 3,500 บาทถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด เปลือกยางถูกไฟลวก ไม่สามารถกรีดได้ต้องรอพักฟื้นอีกอย่างน้อย 6 เดือน รวมถึงปุ๋ยหน้าดินที่ถูกความร้อนของไฟทำลายได้รับความเสียหายไปด้วย เมื่อไปสอบถามเทศบาลกลับไม่ได้รับความสนใจ จึงมาร้องขอความเป็นธรรมจากสื่อดังกล่าว

เช่นเดียวกับนายทรงศักดิ์ ชมประโคน อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่11 ต.หนองไม้งาม อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เกษตรกรชาวสวนยาง เล่าว่า สวนยางของตนเคยถูกไฟลามจากกองขยะเดียวกันลามไหม้เสียหายไป 3 ไร่แต่ไม่ได้รับการเยียวยาจากเทศบาลเลย

ตอนนี้อยากรู้เทศบาล”คิดได้อย่างไร”สถานที่เทศบาลนำขยะมาทิ้งเป็นที่เนินสูงกว่าไร่นาของเกษตรกร ตอนฝนตกจะมีน้ำเน่าเสียไหลบ่ามาตามที่ลุ่ม แต่เทศบาลกลับมาแอบจุดไฟเผาขยะหวังลดจำนวนขยะ แต่ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรทุกปี จึงอยากจะให้เทศบาลมาแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย

ผู้สื่อข่าวสอบถามนายวิเชียร เดชณาถวัฒน์ ปลัดเทศบาลตำบลหนองไม้งาม ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายวิเชียร บอกว่าตนไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้ แต่ให้ข้อมูลได้ และเมื่อโทรศัพท์ไปถามเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ปรากฎว่าไม่รับโทรศัพท์แม้แต่ครั้งเดียว////////////

ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง 

จังหวัดบุรีรัมย์ รายงาน

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงานประชุมสามัญประจำปี 2567 สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวประเทศไทย

 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงานประชุมสามัญประจำปี 2567 สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวประเทศไทย

     วันที่ 28 มิถุนายน 2567 (14.00 น.) นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (รมว.กก.) ปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “เดินหน้าท่องเที่ยวไทย”  ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยมี นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ดร.เพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คณะที่ปรึกษากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท.), และประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้าร่วมรับฟัง ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ

รมว.เสริมศักดิ์ กล่าวว่า การเดินหน้าท่องเที่ยวไทยให้ประสบความสำเร็จ ต้องประกอบด้วย Demand และ Supply ที่สมดุล ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนต้องกระจายรายได้ให้ทั้งเมืองเล็ก-เมืองใหญ่ ต้องสร้างโอกาสและความสามารถในการแข่งขันให้ทั้งผู้ประกอบการรายเล็กและรายใหญ่ ซึ่งการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวนั้นมี 3 แกน

     

แกนที่ 1 คือ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ เป็นผู้กำหนดนโยบาย วางมาตรฐาน ทิศทางและสนับสนุนให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเดินหน้าได้อย่างสะดวก ปลอดภัย สมดุลและยั่งยืน

     

แกนที่ 2 คือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีหน้าที่ สร้าง Branding ให้ประเทศและแหล่งท่องเที่ยว ส่งเสริมการสร้างประสบการณ์ที่ดี มีคุณค่า และส่งเสริมด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์เรียกได้ว่า เป็นผู้เปิดการขาย

     

แกนที่ 3 คือ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่ประกอบด้วย 180 สมาคมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ทุกสาขาอาชีพ ทุกจังหวัด ที่ดูแลผู้ประกอบการมากกว่า 50,000 รายเป็นผู้ปิดการขาย สร้างรายได้ให้ประเทศ และเป็นผู้ให้บริการ ที่ถือว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการท่องเที่ยว ซึ่งก็คือทุกท่านที่อยู่ในสถานที่ประชุมแห่งนี้

     

นั่นคือเหตุผลว่า ทำไม ผมในฐานะรัฐมนตรีฯ จึงมีความยินดีอย่างยิ่ง และให้ความสำคัญกับการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รัฐบาลชุดนี้มีความมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะฟื้นฟูและยกระดับการท่องเที่ยวไทย ให้เป็นผู้นำของโลกได้อีกครั้ง ทั้งในเชิงรายได้และคุณภาพ ในฐานะรัฐมนตรี ผมมี 2 ตัวชี้วัด ที่ต้องทำให้สำเร็จร่วมกับภาคเอกชน ในเชิงรายได้ รัฐบาลมีเป้าหมาย ให้การท่องเที่ยว เป็นเครื่องจักรสำคัญในการสร้างรายได้ให้ประเทศถึง 3.5 ล้านล้านบาท ในเชิงคุณภาพ เรามีดัชนีการพัฒนาด้านการเดินทางท่องเที่ยว หรือ TTDI (Travel & Tourism Development Index) ซึ่งประเด็นหลักที่ต้องพัฒนา คือ การกระจายรายได้ ความปลอดภัยและสขอนามัยการท้องเที่ยวยังยืน 

     

ซึ่งทั้ง 4 ประเด็นนั้น รัฐบาลกำลังเร่งขับเคลื่อนผ่านทั้งโครงการ IGNITE Thailand's Tourism  โครงการส่งเสริมเมืองน่าเที่ยว 55 จังหวัด โดยการพัฒนาปัจจัยที่เกี่ยวเนื่องอย่างเป็นระบบ อาทิ สถานที่ท่องเที่ยว อัตลักษณ์ท้องถิ่น การส่งมอบประสบการณ์ พร้อมเชิญชวน และกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเมืองน่าเที่ยว  การขับเคลื่อน เป้าหมายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน STG- Sustainable Tourism Goal นโยบายฟรีวีซ่า 93 ประเทศ เขตเศรษฐกิจ เป็นต้น 

___

ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าว

#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมใจทำบุญตักบาตร เสริมสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว นอกเทศกาลเข้าพรรษาประจำปี 2567

 จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมใจทำบุญตักบาตร เสริมสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว นอกเทศกาลเข้าพรรษาประจำปี  2567

          วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2567 เวลา 06.30 น.  พระครูสุตกิจจานุยุต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบูรพาภิราม พระอารามหลวง ประธานฝ่ายสงฆ์ และนายไพโรจน์ จิตจักร์ ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด ประกอบพิธีทําบุญตักบาตรทุกวันอาทิตย์ นอกเทศกาลเข้าพรรษา  ประจําปี 2566 - 2567 โดยมีส่วนราชการ พ่อค้าและประชาชน เข้าร่วม เพื่อเป็นกิจกรรมที่เป็นศูนย์รวมใจการทำบุญของชาวร้อยเอ็ดในวันหยุดราชการ เสริมสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว ณ ลานบริเวณหอโหวด 101 สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด

           สำหรับกิจกรรมทำบุญตักบาตรทุกเช้าวันอาทิตย์ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ได้รับการพัฒนาจิตใจ มีคุณธรรม จริยธรรม สอดคล้องตามหลักตามค่านิยม 11 ประการของชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ตลอดจนให้พุทธศาสนิกชนทุกคน ได้มีโอกาสทำบุญตักบาตรในช่วงวัดหยุด ซึ่งว่างเว้นจากการทำงาน เพื่อให้มีเวลาในการรักษาศีล เจริญจิตภาวนา พัฒนากล่อมเกลาจิตใจ นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมสร้างและปลูกจิตสำนึกค่านิยมสุจริต คุณธรรม จริยธรรมให้แก่ข้าราชการ บุคลากรภาครัฐ ได้นำหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานให้เหมาะสมกับบทบาท/ภารกิจของหน่วยงาน และมีส่วนร่วมในการสืบสานประเพณีและอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยที่ดีงาม รวมทั้งจรรโลงสังคมไทยให้เป็นสังคมดีมีคุณธรรมจริยธรรม

คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ

ชาติ มหาชน ศูนย์ข่าวทีวีประชาชนออนไลน์/รายงาน

ทรู คอร์ปอเรชั่น เลือก ซุปตาร์ ผู้ใช้ทรูตัวจริง “แน็ก - กามิน” คู่จิ้น โชเชียล สุดฮอต กระจายความฟิน ให้ “ฟินทั่วไทย ฟินทั่วถึง ฟินทุกคน” แชร์ประสบการณ์ใช้จริง เช็กอินถิ่นกรุงเก่า “อยุธยา” โชว์สัญญาณ True5G แรงทั่วไทย

 ทรู คอร์ปอเรชั่น เลือก  ซุปตาร์ ผู้ใช้ทรูตัวจริง “แน็ก - กามิน” คู่จิ้น โชเชียล สุดฮอต กระจายความฟิน ให้ “ฟินทั่วไทย ฟินทั่วถึง ฟินทุกคน” แชร์ประสบการณ์ใช้จริง เช็กอินถิ่นกรุงเก่า “อยุธยา” โชว์สัญญาณ True5G แรงทั่วไทย

 

 

กรุงเทพฯ 29 มิถุนายน 2567 - ทรู คอร์ปอเรชั่น ส่งมอบความฟินจากคู่จิ้น สุดฮอต ผู้ใช้ทรูตัวจริง หนุ่มไทย และสาวเกาหลี “แน็ก - กามิน” โชว์คอนเซ็ป “ฟินทั่วไทย ฟินทั่วถึง ฟินทุกคน” แจกความสดใส ผ่านคลิปวีดีโอที่จะพาเช็คอินจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถ่ายทอดความสวยงามของเมืองมรดกโลก รวมถึงของดีของเด็ดประจำจังหวัด  ภายใต้แคมเปญหลัก “ทรูทั่วไทย ทั่วไทย ทั่วถึง ทุกคน” ที่นำพลังสัญญาณ True 5G  เชื่อม Soft Power ไทยไปไกลทั่วโลก และตอกย้ำศักยภาพ True 5G ที่พัฒนาต่อเนื่องเป็นเครือข่ายที่ดีที่สุดพร้อมรองรับดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่ครอบคลุมทุกวิถีชีวิตยุคดิจิทัล

 

“ทรูทั่วไทย ทั่วไทย ทั่วถึง ทุกคน”

นายฐานพล มานะวุฒิเวช หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แคมเปญ “ทรูทั่วไทย ทั่วไทย ทั่วถึง ทุกคน” ที่ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้สร้างสรรค์ขึ้นมา เพื่อสะท้อนความเร็วแรงของสัญญาณ True 5G ที่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศไทย  และเป็นเครือข่ายที่เข้าใจทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทั้งทรูและดีแทค ในยุคดิจิทัล โดยที่ผ่านมาเพิ่งเปิดตัว “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก” พรีเซนเตอร์ ทรูทั่วไทย โชว์พลังสัญญาณ True 5G ที่เชื่อมโยง Soft Power ไทย  นำเสนอจุดเด่นของ 4 ภาค 12 จังหวัดทั่วไทย ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี  และ ล่าสุด วันนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้เดินหน้าสบายปีกแคมเปญ “ทรูทั่วไทย ทั่วไทย ทั่วถึง ทุกคน” นำผู้ใช้ทรูตัวจริง คู่จิ้น คู่ใจที่กำลังเป็นกระแสฮอตสุดๆ ในโลกโซเชี่ยล อย่างหนุ่มไทย และสาวเกาหลี  “แน็ก-กามิน” มาเป็นตัวแทนมหาชนให้แฟนคลับ “ฟิน ทั่วไทย ฟิน ทั่วถึง ฟิน ทุกคน” แจกความสดใส ผ่านคลิปวีดีโอที่จะพาเช็คอินจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถ่ายทอดความสวยงามของเมืองมรดกโลก รวมถึงของดีของเด็ดประจำจังหวัด ภายใต้คำขวัญ “ราชธานีเก่า อู่ข้าวอู่น้ำ เลิศล้ำกานท์กวี …TRUE5G ประเสริฐศรีไม่แพ้ใคร Welcome TRUE อยุธยา” เพื่อตอกย้ำการสื่อสารถึงการเข้าถึงของสัญญาณทรูที่เข้าถึงทุกพื้นที่ทุกภาคทั่วไทย”

 

แน็ก ชาลี ไตรรัตน์ กล่าวว่า “รู้สึกยินดี ที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ ทรูทั่วไทย ทั่วถึง ทุกคน และได้มาร่วมงาน “ฟินทั่วไทย ฟินทั่วถึง ฟินทุกคน” ของทรู ซึ่งในครั้งนี้ได้พากามิน และเพื่อนๆมาเช็กอินที่จังหวัด พระนครศรีอยุธยาเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ทั้งในด้านสถาปัตยกรรมและความเป็นมาที่มีคุณค่า อาหารอร่อย บรรยากาศดี ที่สำคัญ ผมพูดจากประสบการณ์จริง ใช้ทรู 5G ไปไหนก็มีสัญญาณ True5G เชื่อมต่อรวดเร็วทันใจ ราบรื่นไม่มีสะดุด  ซึ่งการถ่ายทำครั้งนี้ ทำให้ผมได้เห็นอยุธยาในมุมใหม่ๆ  ที่มีจุดเด่น หลากหลาย ที่ล้วนเป็น Soft Power ของไทย ซึ่งอยากให้ทุกคนติดตามชมกันนะครับ การันตีความฟินแน่นอน” 

จีกามิน กล่าวว่า “ดีใจมากที่ได้เข้าร่วมแคมเปญนี้ค่ะ การได้มาเยือนอยุธยาเมืองที่มีประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่สวยงาม ทำให้ตื่นเต้นมากๆ อยุธยาเป็นเมืองที่มีเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว การได้มาเห็นด้วยตาตัวเองทำให้รู้สึกประทับใจมาก  แต่ที่ประทับใจกว่าคือสัญญาณ True5G ที่ครอบคลุมแบบทุกพื้นที่  แบบไม่มีสะดุดราบรื่นและรวดเร็ว อย่างที่แน็กบอกเลย สุดยอดมากค่ะหวังว่าทุกคนจะมีความสุขและประทับใจในทริปนี้นะคะ  อยากให้ร่วมชมคลิปผลงานของพวกค่ะ” 

 

ติดตามความน่ารักของทั้งคู่ในคลิปเต็ม เวลา 18.00 น. วันนี้ ที่ทุกช่องทาง Social ของแน็ก ชาลี

 

รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.true.th/home

 

 

#ทรูทั่วไทย #True5Gทั่วไทยทั่วถึงทุกคน #True #dtac

__

#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

ผู้ว่าราขการจังหวัดนนทบุรี ประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวัน เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

 ผู้ว่าราขการจังหวัดนนทบุรี ประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวัน เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

ที่วัดอุทยาน ตำบลบางขุนกอง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระเทพวชิรนันทาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เจ้าคณะพระสังฆาธิการในเขตอำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ตามมติมหาเถรสมาคม พร้อมด้วยนายชุ้น ณัฐเดช กังสุกุล  ปลัดจังหวัดนนทบุรี ว่าที่ร้อยตรียุทธภูมิ จับจิตต์ นายอำเภอบางกรวย หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบล และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธีเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และน้อมนำหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนามาปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ไดร่วมปล่อยปลา ปลูกพันธุ์ไม้ และร่วมประชุมทำ MOU โครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 และโครงการวัดประชารัฐสร้างสุข ระหว่างคณะสงฆ์และหน่วยงานราชการ ร่วมกันส่งเสริมพัฒนาจิตใจประชาชนด้วยหลักธรรม เน้นย้ำบูรณาการทุกภาคีเครือข่ายนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาประยุกต์สู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชน เพื่อทำให้ทุกพื้นที่เป็น “หมู่บ้านยั่งยืน”

//////

ผกก.บางสื่อ สั่งฝ่ายสืบสน.บางซื่อ ระดมกวดล้าง จับกุมผู้เสพ-ผู้ค้า ยาเสพติดในพื้นที่ ให้เห็นผลทันที ตามนโยบายผบช.น.

 ผกก.บางสื่อ สั่งฝ่ายสืบสน.บางซื่อ ระดมกวดล้าง จับกุมผู้เสพ-ผู้ค้า ยาเสพติดในพื้นที่ ให้เห็นผลทันที 

ตามนโยบายผบช.น. 

 เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 29 มิ.ย.67 ที่สน.บางซื่อ พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ ได้สั่งการให้พ.ต.ท.กิตติ์พิสิฐ ระย้าย้อย รอง.ผกก.สส  พ.ต.ต.นิพล สิงห์ทอง สว.สส  พ.ต.ต.มานพ เกิดประโคน สว.สส.บางซื่อ ร.ต.อ.สันต์ นาคคลี่ รอง.สว.สส.สน.บางซื่อ ร.ต.ท.ณัฐพสิษฐ์ ทิพย์โสภา รอง.สว( สส) สน.บางซื่อ ต.ต.พิสิษฐ์ โตล่ำ ผบ.หมู่ สส ด.ต.สมคิด วัฒนะธีระสวัสดิ์  ต.ต.ปิยะพล เจียมรัตน์ จ.ส.ต.ณัฐวุฒิ เกศวิริยะการ ผบ.หมู่ สส.สน.บางซื่อ

ออกกวาดล้างจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ ตามนโยบายผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สามารถจับกุมผู้ต้องหาจำหน่ายยาเสพติดเป็นชาย 1 รายทราบชื่อต่อมานายปฐมพร อ่อนรัศมี อายุ 35 ปี ได้ที่บ้านเลขที่ 999/2  ถ.กำแพงเพชร2 เขตจตุจักร กรุงเทพ 

โดยเจ้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมได้

ภายในห้องพัก อาคารเลขที่ 1032/104 ซอยพหลโยธิน 18 /1 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพ จากการตรวจค้นภายในห้องพบยาเสพติด(ยาบ้า) จำนวน 103 เม็ด ยาไอซ์ 9 ถุง ย้ำหนักถุงละ 1 กรัม และยาเคตามีน 1 ถุง 

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ที่จำหน่ายยาเสพติดให้กับวัยรุ่น ในย่านสวนจตุจักรและย่านขนหมอชิตจริง จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

พ.ต.อ.ภูวดล กล่าวว่า สำหรับการจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดรายนี้ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เฝ้าติดตามพฤติการณ์มาซักระยะหนึ่งแล้วว่าเป็นผู้ที่จำหน่ายยาเสพติดให้กับกลุ่มวัยรุ่นในสวนจตุจักรและหมอชิต ซึ่งในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ สามารถเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้ก่อนที่จะนำไปค้นภายในห้องพักพบยาเสพติดอยู่ในห้องพักจำนวนดังกล่าว 

“ทางสน. บางซื่อ จะทำการกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดในพื้นที่ทุกวันจนกว่ายาเสพติดจะลดลง ตามนโยบายทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล2 ที่ได้มอบนโยบายในการกวาดล้างสิ่งเสพติด“ผกก.สน.บางสื่อกล่าว

///////// 

"ชาวปักษ์ใต้" รวมพลังให้กำลังใจ"บิ๊กโจ๊ก"

 

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2567 สมาคมชาวปักษ์ใต้ในพระบรมราชูปถัมภ์ได้จัดกิจกรรมให้กำลังใจ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะนายกสมาคม และกรรมการบริหารสมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ โดยมีประชาชนและสมาชิกสมาคมชมรมชาวใต้ทั้ง 14 จังหวัดเข้าร่วมอย่างคึกคัก หลังที่ประชุม ก.ตร. เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา มีมติ 12 ต่อ 0 ให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ออกจากราชการไว้ก่อน​ ในงาน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้กล่าวต่อชาวใต้ว่า ถึงแม้ตนจะถูกกระทำและรุมกินโต๊ะจีน แต่ก็จะต่อสู้เพื่อความยุติธรรม เพราะถ้าไม่ทำเช่นนั้นก็คงไม่สามารถให้ความเป็นธรรมกับคนอื่นได้ โดยยกตัวอย่างกรณีของ “แป้ง นาโหนด” ที่ต้องหนีออกนอกประเทศ ว่าเกิดจากปัญหาความไม่ยุติธรรม นอกจากนี้ยังเหน็บแนมนายกรัฐมนตรีที่เคยให้คำมั่นสัญญาว่าจะให้ความเป็นธรรม แต่สุดท้ายก็เป็นแค่วาทกรรมหรือการ “โม้” เท่านั้น ไม่ได้ลงมือทำอะไรจริงจัง

ภายในงานยังมีชาวบ้านนำสะตอและดอกไม้มามอบให้ พร้อมป้ายข้อความ “รักบิ๊กโจ๊ก” เพื่อสื่อถึงความรักใคร่สามัคคีของคนใต้ที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เสมอ ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นเป็นกันเอง