วันอังคารที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2566

จ.ราชบุรี/ทีมคนสวยโพธาราม จังหวัดราชบุรี น้อมนำพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ผ่านเข้ารอบ 1ใน 8 ทีมระดับประเทศ ใน การประกวดการออกแบบตัดเย็บ “ชุดผ้าไทยใส่ให้สนุก” ระดับภาคกลาง

 จ.ราชบุรี/ทีมคนสวยโพธาราม จังหวัดราชบุรี น้อมนำพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ผ่านเข้ารอบ 1ใน 8 ทีมระดับประเทศ ใน การประกวดการออกแบบตัดเย็บ “ชุดผ้าไทยใส่ให้สนุก” ระดับภาคกลาง



วันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม 2566 ณ โรงแรม ณ เวลา อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เผยถึงการขับเคลื่อนและส่งเสริมการใช้ผ้าไทยตามนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทยที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีหลักชัยที่สำคัญ คือ น้ำพระทัยของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระผู้ทรงมีความมุ่งมั่นในการแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชดำริด้านการส่งเสริมผ้าไทยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ปรากฏเป็นภาพอันเป็นที่ประจักษ์ชัดแก่ข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนผู้ประกอบการ OTOP และสมาชิกโครงการศิลปาชีพฯ เมื่อครั้งพระองค์ได้เสด็จเป็นองค์ประธานในงาน OTOP City 2020 เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2563 ได้พระราชทาน ผ้าลายพระราชทาน "ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ" แก่นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน คนที่ 29 พร้อมทั้งพระราชทานพระดํารัสใจความตอนหนึ่งว่า "...ข้าพเจ้าจึงได้ออกแบบลายผ้ามัดหมี่ มอบให้ช่างทอผ้าเป็นของขวัญปีใหม่ โดยออกแบบลายให้มีความหมายถึง การส่งมอบความรัก ความสุข ให้ชาวไทยทุกคน เป็นการจุดประกายความคิดในการพัฒนาลายผ้า ออกแบบให้ร่วมสมัย ใช้ได้จริง ในหลายโอกาส"

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยน้อมสำนึกในพระกรุณาธิคุณอันล้นเกล้าล้นกระหม่อมที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานกำลังใจอันล้ำค่าให้แก่ผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้า และสมาชิกศิลปาชีพในครั้งนั้น ด้วยเพราะพระองค์ทรงตั้งพระทัยมั่นที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ได้ทรงรื้อฟื้นคืนชีวิตและลมหายใจให้กับผืนผ้าไทยเมื่อ 50 ปีก่อน ก่อกำเนิดเกิดเป็นศูนย์ศิลปาชีพแห่งแรกในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่บ้านนาหว้า อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม ซึ่งสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงใช้พระปรีชาชาญที่ได้จากการศึกษาทางด้านศิลปกรรมศาสตร์และการออกแบบแฟชั่นดีไซน์จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศ ด้วยการต่อยอดพระราชดำริด้านการส่งเสริมภูมิปัญญาผ้าไทยสู่โครงการพระดำริ "ผ้าไทยใส่ให้สนุก" ซึ่งพระองค์ได้ทรงอรรถาธิบายว่า คือ "ความสุขที่ได้เลือกใช้ศิลปะ หัตถกรรมไทย เพื่อให้รายได้กลับสู่ชุมชน ส่งเสริมและกระตุ้นผ้าไทยให้ทันสมัยสู่สากล เป็นที่นิยมในทุกเพศ ทุกวัยและทุกโอกาส" 





"กระทรวงมหาดไทยร่วมกับสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ภายใต้การนำของ ดร. วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย น้อมนำพระดำริ "ผ้าไทยใส่ให้สนุก" มาขับเคลื่อนขยายผล โดยได้รับการสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายที่สำคัญ คือ คณะทำงานโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุกในพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จนกระทั่งเกิดเป็น "โครงการส่งเสริมการออกแบบตัดเย็บผ้าไทย ภายใต้โครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก”" โดยการประกวดการออกแบบตัดเย็บ “ชุดผ้าไทยใส่ให้สนุก” จากกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้า เครื่องแต่งกาย ตลอดจนนักออกแบบและตัดเย็บชุดผ้าไทยจากทั่วทุกภาคของประเทศ เพื่อเพิ่มช่องทางด้านการตลาดและเพิ่มรายได้ให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้า เครื่องแต่งกาย นักออกแบบและตัดเย็บชุดผ้าไทย รวมทั้งเป็นการสร้างการรับรู้การส่งเสริมการใช้และการสวมใส่ผ้าไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ซึ่งมีกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้า เครื่องแต่งกาย นักออกแบบและตัดเย็บชุดผ้าไทย และประชาชนทั่วไป จากทั่วประเทศ สมัครเข้าร่วมประกวด รวมจำนวนทั้งสิ้น 270 ทีม" นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว  นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้กระทรวงมหาดไทยได้มีการจัดการประกวดการออกแบบตัดเย็บ “ชุดผ้าไทยใส่ให้สนุก” ระดับภาคกลาง ที่ห้องเวลาดี 2 โรงแรม ณ เวลา อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี โดยคณะกรรมการคัดเลือกได้ทำการคัดเลือกผลงานจากผู้เข้าประกวด จำนวน 62 ทีม ในรอบคัดเลือกเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา เข้ารอบมาสู่การประกวดระดับภาคในวันนี้ จำนวน 20 ทีม ซึ่งในวันนี้ กระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทยได้รับเกียรติจากคณะกรรมการตัดสิน ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ นายธนันท์รัฐ ธนเสฏฐการย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย และที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก นายศิริชัย ทหรานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผ้าไทย เจ้าของแบรนด์ THEATRE นายภูภวิศ กฤตพลนารา นักออกแบบเจ้าของแบรนด์ ISSUE ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. รวิเทพ มุสิกะปาน ประธานหลักสูตรแฟชั่น สิ่งทอและเครื่องตกแต่ง วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ดร.กรกลด คำสุข รองคณบดีฝ่ายนวัตกรรมทางปัญญาและวิจัย วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ นายวิชระวิชญ์ อัครสันติสุข นักออกแบบเจ้าของแบรนด์ WISHARAWISH และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด 5 จังหวัดภาคกลาง และผู้แทน คือ 1. นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 2. นางวราภรณ์ เจริญศิริโชติ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครปฐม 3. นางจิตตินันท์ เชาวรินทร์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครนายก 4. นางบัณฑิตา หมื่นพรม พัฒนาการจังหวัดลพบุรี 5. นางสาวสุกานดา แสงวงษ์ พัฒนาการจังหวัดสมุทรปราการ ได้ร่วมกันตัดสินคัดเลือก 8 ผลงานโดดเด่นที่มีความเป็นเลิศ เข้าสู่การประกวดระดับประเทศในวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ณ ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี






"ขณะนี้ผลการตัดสินได้เสร็จสิ้นแล้ว มีผู้เข้าประกวดในพื้นที่จังหวัดภาคกลางผ่านเข้ารอบระดับประเทศ รวม 8 ทีม ได้แก่ 1) นายรัฐพล ทองดี กลุ่ม KRAMPHON จังหวัดปราจีนบุรี 2) นางสาวอุริศยา กุหละ  ทีมคนสวยโพธาราม จังหวัดราชบุรี 3) นายสุรสิทธิ์ พลาน ทีม 6 Salt Art จังหวัดลพบุรี 4) นางสาวศริญญา ศรีเหรา ทีม  U-thong quilts จังหวัดสุพรรณบุรี 5) นางอารียา บุญช่วยแล้ว ทีม INTHAI จังหวัดสมุทรปราการ 6) นางสาวนันทินา เชียงทอง ทีมผ้าขาวม้าหนองยาว ร้านโชคกิตติ จังหวัดกาญจนบุรี 7) นายชวกร ทองประศรี ทีม Faris จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ 8) นางสาวณิชาพิชญ์ ก.จันทราภานนท์ ทีมณิชาพิชญ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์" นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอเป็นกำลังใจให้ผู้เข้าประกวดที่ผ่านเข้ารอบและมานำเสนอผลงานในครั้งนี้ นับว่าทุกท่านเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถที่สามารถผ่านการประกวดรอบคัดเลือกซึ่งมีผู้สมัครเป็นจำนวนมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการประกวดเป็นกุศโลบายในการกระตุ้นต่อมความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนความมุ่งมั่นตั้งใจ ความเพียรพยายามในการรังสรรค์ผลงานเพื่อที่จะให้คณะกรรมการได้คัดเลือกผลงานเข้าสู่รอบต่อไป ดังนั้นผู้เข้าร่วมการประกวดที่ไม่ผ่านเข้ารอบ จะต้องใช้ความพยายามที่เพิ่มพูนมากขึ้นในการพัฒนาการออกแบบตัดเย็บให้สอดคล้องกับแฟชั่นสมัยนิยม นำความคิดเห็น ข้อแนะนำของคณะกรรมการทุกท่าน ไปประมวลและใส่ในผลงานที่เราออกแบบตัดเย็บ เพื่อเตรียมตัวเข้าประกวดในปีต่อไป และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่านที่เข้าร่วมโครงการฯ นี้จะมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการเป็นนักออกแบบตัดเย็บหรือเป็นดีไซเนอร์ที่ดี มีผลงานที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับทั้งในระดับพื้นที่ถึงระดับสากล เพื่อที่จะทำให้ผ้าไทยทุกผืนได้รับการตัดเย็บที่สร้างมูลค่าเพิ่ม อันจะยังผลให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจฐานรากที่มั่นคงให้กับประเทศไทยอย่างยั่งยืน

ด้าน ดร.กรกลด คำสุข รองคณบดีฝ่ายนวัตกรรมทางปัญญาและวิจัย วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ในฐานะตัวแทนคณะกรรมการตัดสิน กล่าวว่า การประกวดการออกแบบตัดเย็บ “ชุดผ้าไทยใส่ให้สนุก” ระดับภาคกลาง ในวันนี้ ผู้เข้าประกวดจะต้องนำเสนอผลงานภาพสเก็ต พร้อมสตอรี่บอร์ดหรือมู้ดบอร์ด (Mood board) ของชุดที่จะออกแบบตัดเย็บ จำนวน 3 ชุด ภายในระยะเวลาไม่เกิน 10 นาที  โดยลำดับการเข้านำเสนอผลงานเรียงตามลำดับการลงทะเบียน มีหลักเกณฑ์การพิจารณาตัดสิน คะแนนเต็ม 100 คะแนน แบ่งเป็น 1. แนวคิดและแรงบันดาลใจในการออกแบบ 30 คะแนน 2. ความคิดสร้างสรรค์ 40 คะแนน 3. ความสวยงามและความสมบูรณ์แบบของชุด 30 คะแนน ซึ่งผู้ที่ได้รับการคัดเลือกทั้ง 10 ทีม จะเข้าแข่งขันกับอีก 30 ทีมจากภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ในรอบระดับประเทศ ต่อไป

ในการนี้ นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี มอบหมายนายอังกูร ศีลาเทวากูร รอง.ผวจ.ราชบุรี และนาง ศรินทิพย์ ศีลาเทวากูร รองประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วยนางยุพิน เศรษฐศักดาศิริ พัฒนาการจังหวัดราชบุรี พร้อมและ ผู้อำนวยการกลุ่มงานทุกกลุ่มงาน พัฒนาการอำเภอและผู้แทน ทั้ง 10 อำเภอ องค์กรภาคีเครือข่ายพัฒนาชุมชนและเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนจังหวัดราชบุรี ร่วมเป็นกำลังใจ และนำผู้ผ่านเข้ารอบการคัดเลือกของจังหวัดราชบุรี เข้าร่วมการประกวดในวันนี้ ซึ่งจังหวัดราชบุรีมีผู้ผ่านเข้ารอบการประกวดในระดับประเทศ จำนวน 1 ราย ได้แก่ นางสาวอุริศยา กุหละ  ทีมคนสวยโพธาราม จังหวัดราชบุรี


สุพจน์ วรสหวัฒน์จ.ราชบุรี/รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น