วันอังคารที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2566

มูลนิธิรักเมืองไทย จัดงานมอบทุนการศึกษาผ่านระบบออนไลน์ “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” ….

 มูลนิธิรักเมืองไทย จัดงานมอบทุนการศึกษาผ่านระบบออนไลน์                                          “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน”

….


​มูลนิธิรักเมืองไทย จัดงานมอบทุนการศึกษาผ่านระบบออนไลน์                                          “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน​มูลนิธิรักเมืองไทย จัดงานมอบทุนการศึกษาผ่านระบบออนไลน์                                          “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน”


….

​มูลนิธิรักเมืองไทย จัดพิธีมอบทุนการศึกษาผ่านระบบออนไลน์ ให้แก่โรงเรียนในความอุปถัมภ์ของมูลนิธิฯ จำนวน 37 โรงเรียน และโรงเรียนในสังกัด กองบัญชาการกองทัพไทยอีก 2 โรงเรียน ในชื่อทุน “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” เพื่อรำลึกถึงอดีตประธานกรรมการมูลนิธิรักเมืองไทย พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ โดยทุนการศึกษาที่มอบในครั้งนี้ มอบให้แก่นักเรียนที่มีความประพฤติดี ปฏิบัติดี เพื่อเป็นการยกย่องบุคคลที่เป็นแบบอย่างที่ดีของโรงเรียน โดย พลเอก มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ ประธานกรรมการมูลนิธิรักเมืองไทย เป็นประธานมอบทุนการศึกษาให้กับ นายศุภสิน ภูศรีโสม ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ (ผอ.สอ.) เป็นผู้แทนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นผู้แทนรับมอบทุนการศึกษาจำนวน 99 ทุน จำนวนเงิน 990,000 บาท


​พลเอก มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ กล่าวว่า นับตั้งแต่ พลเอก เปรมติณสูลานนท์ ที่ล่วงลับไปแล้ว ได้ก่อตั้งมูลนิธิรักเมืองไทย ขึ้นมาตั้งแต่ พ.ศ. 2524 ด้วยวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยเหลือการศึกษาของลูกหลานในถิ่นทุรกันดาร ทั้งด้านกายภาพของโรงเรียน และการมอบทุนการศึกษานับเป็นงานหลักที่มูลนิธิยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด โดยมีแนวทางปฏิบัติมุ่งไปที่เด็กและเยาวชนที่เรียนดีแต่ยากจน จนหลายคนประสบความสำเร็จ ทั้งในด้านการศึกษาและการประกอบอาชีพในด้านต่างๆ สำหรับทุนการศึกษา “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” ครั้งนี้นับเป็นความริเริ่มเพิ่มเติมนอกจากแนวทางที่ได้ถือปฏิบัติมาโดยตลอด โดยยึดแบบอย่างจากคำขวัญของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ที่ว่า “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” ทุนการศึกษาดังกล่าว จึงมีความมุ่งหมายให้เด็กและเยาวชน นอกจากต้องตั้งใจศึกษาเล่าเรียนแล้ว มูลนิธิรักเมืองไทยยังมีความประสงค์ที่จะส่งเสริมให้เด็กและเยาวชน ได้ตั้งใจมุ่งมั่นประพฤติตนเป็นคนดีที่สามารถเป็นแบบอย่างแก่เด็กและเยาวชนอื่นๆอีกด้วย ซึ่งหากทำได้เช่นนี้แล้วก็ย่อมบรรลุความมุ่งหมายของพลเอก เปรมติณสูลานนท์ ในการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน


​ทั้งนี้ ตั้งแต่ก่อตั้งมูลนิธิฯ เมื่อปี 2524 จนถึงปัจจุบัน รวมเวลา 42 ปี ที่มูลนิธิรักเมืองไทย มีโรงเรียนในอุปถัมภ์ทั้งสิ้น 37 แห่ง และได้บริจาคเงินตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิไปแล้ว  เป็นเงินรวม ไม่น้อยกว่า 150 ล้านบาท”



….

​มูลนิธิรักเมืองไทย จัดพิธีมอบทุนการศึกษาผ่านระบบออนไลน์ ให้แก่โรงเรียนในความอุปถัมภ์ของมูลนิธิฯ จำนวน 37 โรงเรียน และโรงเรียนในสังกัด กองบัญชาการกองทัพไทยอีก 2 โรงเรียน ในชื่อทุน “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” เพื่อรำลึกถึงอดีตประธานกรรมการมูลนิธิรักเมืองไทย พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ โดยทุนการศึกษาที่มอบในครั้งนี้ มอบให้แก่นักเรียนที่มีความประพฤติดี ปฏิบัติดี เพื่อเป็นการยกย่องบุคคลที่เป็นแบบอย่างที่ดีของโรงเรียน โดย พลเอก มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ ประธานกรรมการมูลนิธิรักเมืองไทย เป็นประธานมอบทุนการศึกษาให้กับ นายศุภสิน ภูศรีโสม ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ (ผอ.สอ.) เป็นผู้แทนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นผู้แทนรับมอบทุนการศึกษาจำนวน 99 ทุน จำนวนเงิน 990,000 บาท



​พลเอก มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ กล่าวว่า นับตั้งแต่ พลเอก เปรมติณสูลานนท์ ที่ล่วงลับไปแล้ว ได้ก่อตั้งมูลนิธิรักเมืองไทย ขึ้นมาตั้งแต่ พ.ศ. 2524 ด้วยวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยเหลือการศึกษาของลูกหลานในถิ่นทุรกันดาร ทั้งด้านกายภาพของโรงเรียน และการมอบทุนการศึกษานับเป็นงานหลักที่มูลนิธิยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด โดยมีแนวทางปฏิบัติมุ่งไปที่เด็กและเยาวชนที่เรียนดีแต่ยากจน จนหลายคนประสบความสำเร็จ ทั้งในด้านการศึกษาและการประกอบอาชีพในด้านต่างๆ สำหรับทุนการศึกษา “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” ครั้งนี้นับเป็นความริเริ่มเพิ่มเติมนอกจากแนวทางที่ได้ถือปฏิบัติมาโดยตลอด โดยยึดแบบอย่างจากคำขวัญของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ที่ว่า “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” ทุนการศึกษาดังกล่าว จึงมีความมุ่งหมายให้เด็กและเยาวชน นอกจากต้องตั้งใจศึกษาเล่าเรียนแล้ว มูลนิธิรักเมืองไทยยังมีความประสงค์ที่จะส่งเสริมให้เด็กและเยาวชน ได้ตั้งใจมุ่งมั่นประพฤติตนเป็นคนดีที่สามารถเป็นแบบอย่างแก่เด็กและเยาวชนอื่นๆอีกด้วย ซึ่งหากทำได้เช่นนี้แล้วก็ย่อมบรรลุความมุ่งหมายของพลเอก เปรมติณสูลานนท์ ในการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน





​ทั้งนี้ ตั้งแต่ก่อตั้งมูลนิธิฯ เมื่อปี 2524 จนถึงปัจจุบัน รวมเวลา 42 ปี ที่มูลนิธิรักเมืองไทย มีโรงเรียนในอุปถัมภ์ทั้งสิ้น 37 แห่ง และได้บริจาคเงินตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิไปแล้ว  เป็นเงินรวม ไม่น้อยกว่า 150 ล้านบาท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น