วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2566

สืบนครบาล จับ “บอลอ้อมน้อย” หลอกนักเรียนทำวีซ่าไปต่างประเทศ พบเหยื่อหลายรายหลงเชื่อสูญเงินหลายแสน ด้านผู้ต้องหารับสิ้น เกิดปัญหาช่วงโควิดจึงก่อเหตุ

 สืบนครบาล จับ “บอลอ้อมน้อย” หลอกนักเรียนทำวีซ่าไปต่างประเทศ พบเหยื่อหลายรายหลงเชื่อสูญเงินหลายแสน  ด้านผู้ต้องหารับสิ้น เกิดปัญหาช่วงโควิดจึงก่อเหตุ




วันที่ 2 มีนาคม พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. แถลงผลงานของ ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล นำโดย พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.สัญญลักษ์  สังขะภักดี  สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. , ร.ต.ต.อภิสิทธิ์  ดวงใส รอง สว.กก.สส.3 ร่วมกันจับกุม

นายปฎิพล หรือบอล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219/703 หมู่ 12 ถ.เพชรเกษม ซอยเพชรเกษม 87 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงธนบุรี ที่ 370/2565 ลงวันที่ 7 ธันวาคม 2565 ในข้อหา ฉ้อโกงทรัพย์



โดยพฤติการณ์ เมื่อเดือนมีนาคม 2565 ผู้ต้องหาได้แฝงตัวเข้าไปในไลน์กลุ่มผู้ปกครองนักเรียนของโรงเรียนนานาชาติชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ได้โพสต์ข้อความโฆษณา สามารถทำวีซ่าเพื่อใช้ไปเรียนต่อต่างประเทศได้ หากใครสนใจให้ส่งข้อความส่วนตัวไปหาผู้ต้องหา ซึ่งมีผู้เสียหายหลายรายสนใจ จึงติดต่อเพื่อทำวีซ่า และจ่ายเงินค่าดำเนินการตามที่ผู้ต้องหาเรียกร้องมา 



แต่เมื่อถึงเวลาที่ตกลงกันไว้ ผู้เสียหายได้ทวงถามความคืบหน้าการทำวีซ่า แต่ปรากฎว่าผู้ต้องหาได้ปิดกั้นช่องทางการติดต่อทั้งหมด ทำให้ผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อได้ จึงรู้ว่า ถูกฉ้อโกงเอาเงินไป จึงรวมตัวกันแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหา



จากการตรวจสอบประวัติ พบกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันนี้ อีก 2 คดี และมีหมายจับอื่นๆ อาทิ 

หมายจับศาลแขวงธนบุรี ที่ 371/2565 ลง 7 ธันวาคม 2565 ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ สน.ท่าข้าม หมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.207/2565 ลง 24 มิถุนายน 2565 ข้อหายักยอกและฉัอโกงสน.ทุ่งมหาเมฆ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ช่วงวิกฤติ covid มีปัญหาเรื่องเงิน จึงได้ก่อเหตุ 



พล.ต.ต.ธีรเดช เปิดเผยว่า นโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้จัดชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนติดตามคนร้ายที่เป็นภัยออนไลน์ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก และยังก่อเหตุต่อเนื่อง จึงฝากเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อการหลอกลวงโดยอ้างเป็นหน่วยงานเอกชน หรือเป็นบุคคลอื่นๆ รวมถึงการหลอกให้ลงทุน หรือยืมเงินในรูปแบบต่างๆ เพื่อหลอกให้ประชาชนหลงเชื่อ และทำการโอนเงินไปยังบัญชีคนร้าย ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น