วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ประชาชนคลองหลวงสุดทนพฤติกรรมชั่วของข้าราชการระดับสูงในจังหวัดปทุมธานีบางราย หอบเอกสารเข้าร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดปทุมธานี ให้เอาผิดข้าราชการที่เกี่ยวข้อง



คลิปจาก : ข่าวชัดประเด็นจริง

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ เวลา 15:30 นที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดปทุมธานี  ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองคลองหลวงจังหวัดปทุมธานีได้หอบเอกสารและหลักฐานการกระทำความผิดของข้าราชการระดับสูงในจังหวัดปทุมธานีที่เรียกรับผลประโยชน์จะผู้ประกอบการและข้าราชการชั้นผู้น้อยที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยโดยการนำหลักฐานเอกสารรายการสอบวินัยไปขายให้กับผู้ที่ถูกสอบสวนหากมีการจ่ายเงินก็จะได้เอกสารที่ถูกสอบสวน   หรือมีการยืดเวลาในการที่จะถูกสอบสวนออกไป  ซึ่งการกระทำความผิดดังกล่าวเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบอีกทั้งยังมีความผิดทางอาญา  ซึ่งการเดินทางมาร้องศูนย์ดำรงธรรมในครั้งนี้เป็นการมาติดตามเรื่องที่เคยมาร้องเมื่อ 3 เดือนก่อนในกรณีที่ข้าราชการระดับสูงดังกล่าวได้นำรถหลวงไปใช้แล้วเกิดอุบัติเหตุและมีการปกปิดเพื่อไม่ให้ถูกตั้งคณะกรรมการสอบเรื่อง  ซึ่งผู้ร้องได้ยื่นเอกสารร้องเรียนมาตั้งแต่ 3 เดือนที่ผ่านมายังไม่ทราบถึงความคืบหน้าว่าเรื่องร้องเรื่องดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนไหน ซึ่งการเดินทางมาครั้งนี้ทางผู้ร้องเองได้ขอร้องสื่อมวลชนแล้วช่วยเสนอข่าวเปิดโปงพฤติกรรมชั่วของข้าราชการเพื่อเป็นกระบอกเสียงและเพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการกระทำผิดของข้าราชการระดับสูงนั้นทำงานอย่างตรงไปตรงมาไม่เข้าข้างและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน


จากการที่เขาได้ไปพูดคุยกับนายอำพล​ รักมิตรอานนท์  ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม
ได้รับปากกับผู้ร้องและสื่อมวลชนว่าในกรณีเรื่องดังกล่าวทางศูนย์ดำรงธรรมจะดำรงความเที่ยงธรรมแล้วทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตทำงานอย่างตรงไปตรงมาแต่ต้องขอชี้แจงว่าเนื่องจากศูนย์ดำรงธรรมเป็นที่รับเรื่องร้องเรียนและส่งต่อข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังนั้นจึงไม่สามารถที่จะกำหนดขอบเขตระยะเวลาในการดำเนินการในเรื่องต่างๆให้แล้วเสร็จได้ชัดเจนแต่ก็รับปากกับผู้ร้องว่าจะพยายามทำเรื่องดังกล่าวให้เร่งด่วนที่สุดและจะประสานงานแจ้งให้ทราบเป็นระยะว่า ณเวลานี้เรื่องที่ร้องมานั้นถึงขั้นตอนไหนเพราะเรื่องดังกล่าวนั้นในการเป็นการร้องเรียนข้าราชการระดับสูงดังนั้นข้าราชการเองเมื่อถูกร้องแล้วเขามีสิทธิ์ที่จะปกป้องสิทธิ์ของตนเองเช่นเดียวกันดังนั้นขั้นตอนกระบวนการต่างๆต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆด้วย
แต่ทางนายอำพลยืนยันว่าจะทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและเที่ยงธรรมที่สุดไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถึงแม้ว่าจะทำงานอยู่ที่ภายใต้ศาลากลางจังหวัดที่เดียวกันก็ตาม ถ้าข้าราชการคนดังกล่าวทำผิดจริงตามคำร้องก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นเดียวกัน ทุกคนต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายเดี๋ยวกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น