ตามนโยบายรัฐบาลนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร
วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
ฝ่ายความมั่นคง
ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำการปราบปรามอาชญากรรมที่ได้เกิดขึ้นหลายรูปแบบ
มีการขยายตัวเป็นวงกว้างและมีผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
การกระทำความผิดในระบบคอมพิวเตอร์ และสังคมออนไลน์
ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นควบคู่ไปพร้อมกับความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน
ซึ่งเป็นปัญหาที่ทางรัฐบาลให้ความสำคัญ และเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจัง
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร.
ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ(ศปอส.ตร.) ,พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. ในฐานะ รองผู้อำนวยการฯ ศปอส.ตร. , พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.บก.สส.สตม. ,พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 , พล.ต.ต.นิธิธร
จินตกานนท์ ผบก.บก.จร.บช.น. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.สส.บก.น.4 ได้สั่งการให้
ศปอส.ตร. ชุดปฏิบัติการที่ 2 สืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้าย
หลอกลวงผู้เสียหายขายสินค้าออนไลน์ และปลอมบัญชีไลน์แอด (Line@) แสร้งเป็นระบบ Call
Center หลอกลวงเหยื่อในการติดตามการส่งสินค้า
ซึ่งมีบริษัทผู้ให้บริการขนส่งพัสดุ และผู้เสียหายหลายราย มาแจ้งความร้องทุกข์ที่
ศปอส.ตร. ให้จับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว นายฐิติพงษ์ พรหมเจริญ ผู้ต้องหา ได้ที่บริเวณสถานีบริการน้ำมัน ย่านถนนพุทธบูชา แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร และได้ตรวจยึดโทรศัพท์เคลื่อนที่พร้อมซิมการ์ด จำนวน 2 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ 9 เล่ม, บัตรเอทีเอ็ม 6 ใบ และกล่องพัสดุ (ที่ใช้ในการสร้างหลักฐานการส่งพัสดุปลอม) จำนวน 4 กล่อง ทั้งหมดเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการลงมือกระทำความผิด โดยในชั้นจับกุม ผู้ต้องให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นบุคคลที่ลงมือก่อเหตุหลอกลวงขายของสินค้าผ่านทางอินเตอร์เน็ตจริง โดยหลอกลวงขายสินค้าประเภทต่างๆ ผ่านทาง Facebook, Kaidee, Line@ โดยจะตั้งชื่อร้านแตกต่างกันออกไป ทำให้มีผู้หลงเชื่อจำนวนมาก และหลังจากได้เงินก็ปิดเพจหนี ในการหลอกลวงนี้ผู้ต้องหาได้เงินจากการหลอกลวงมากกว่า 5 แสนบาท
ตรวจสอบประวัติการต้องคดีอาญาของนายฐิติพงษ์ พรหมเจริญ
พบว่าปัจจุบันได้หลบหนีการประกันตัวชั้นศาล ในความผิดฐานฉ้อโกง
ตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชันที่ 693/2561 ลงวันที่ 12 พ.ย.2561 และเมื่อปี 2555
เคยถูกตำรวจสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ จ.ชลบุรี จับกุมขณะบวชเป็นพระ
ได้ขโมยทองของพระในวัดเดียวกันไปขายเพื่อนำเงินไปให้สีกาในการรักษาสิว รับโทษจำคุก 2 ปี 3 เดือน
เมื่อพ้นโทษออกมาไม่ได้ประกอบอาชีพแต่อย่างใด
จึงเลือกก่อเหตุหลอกลวงขายสินค้าทางอินเตอร์เน็ต เพราะผู้ต้องหามีความสามารถเกี่ยวกับการใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี
เนื่องจากชอบเล่มเกมออนไลน์ตามร้านบริการอินเตอร์เน็ตอยู่เป็นประจำ
วิธีการนี้สามารถหาเงินได้ง่าย ยากต่อการถูกจับกุม
ส่วนบัญชีที่ใช้ในการรับโอนเงินจากผู้เสียหาย ผู้ต้องหาใช้บัญชีชื่อตนเอง
บางครั้งก็หยิบยืมจากเพื่อน, แฟนสาว และแม่
ศปอส.ตร. ขอประชาสัมพันธ์
ให้พี่น้องประชาชน ท่านใดตกเป็นเหยื่อการหลอกลวงจากนายฐิติพงษ์ พรหมเจริญ
(ชื่อเล่น ปาล์ม หรือ ตาม)
หรือถูกหลอกลวงที่มีลักษณะคล้ายสร้าง Call Center ปลอมขึ้นมา
โดยชื่อว่าน่าจะถูกผู้ต้องหารายนี้หลอกลวง สามารถติดต่อแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่
ศปอส.ตร. หมายเลขโทรศัพท์ 1155 หรือสถานีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น