1. การจัดกิจกรรมจิตอาสาตามโครงการ “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” ได้มีการสั่งการให้แต่ละ บก.หมุนเวียนกัน
จัดกิจกรรมทุกสัปดาห์ โดยให้แจ้งกำหนดการผ่าน ฝอ.1 บก.อก.สตม. ล่วงหน้า 7 วัน และในการจัดกิจกรรมต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามแนวทางของ ทม. ห้ามมิให้มีข้อผิดพลาด
2. การปราบปราม Overstay ปัจจุบันเป็นศูนย์แล้ว ทุกด่านต้องกดดันปราบปรามต่อเนื่องไม่ให้มีอีกเด็ดขาด
3. กรณีการขออยู่ต่อฯ ให้แต่ละด่านแจ้งเตือนคนต่างด้าวล่วงหน้า 7 วัน ก่อนครบกำหนดเวลาอนุญาตให้ทำเป็นหนังสือ โดยให้แต่ละด่านไปจัดระบบการแจ้งเตือนตามความเหมาะสมของแต่ละด่าน
4. การให้คนต่างด้าว เข้า ออก หรือขออยู่ต่อฯ ให้ตรวจสอบข้อมูลการขออนุญาตให้ถูกต้องตามระเบียบกฎหมายโดยเคร่งครัด และต้องตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วน เช่น ข้อมูลบุคคลต้องห้ามหมายจับ หมายจับ หมายแดงตำรวจสากล การแจ้งที่พัก เอกสารการเงิน ฯลฯ และภายหลังเมื่ออนุญาตแล้ว ให้ฝ่ายสืบสวนออกตรวจสอบติดตามอย่างต่อเนื่อง
5. ให้แต่ละด่านมีร้อยเวรสายตรวจ และชุดสืบสวน ออกปฏิบัติหน้าที่คู่กัน โดยให้มีรถยนต์พร้อมออกปฏิบัติหน้าที่ และให้ร้อยเวรไปสถานที่เกิดเหตุทุกเหตุที่สำคัญและจำเป็นต้องมีการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของ สตม. หากเป็นเหตุสำคัญเร่งด่วน ให้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบโดยด่วนที่สุด
6. การบูรณาการปิดล้อมตรวจค้น ต้องมีผลการปฏิบัติ ให้มีการเลือกเป้าที่มีคุณภาพ เช่น อพาร์ทเมนท์ หอพัก ที่พักคนงาน ฯลฯ และต้องบูรณาการกับหน่วยงานข้างเคียง เช่น ฝ่ายปกครอง ทหาร แรงงาน เป็นต้น
7. ตรวจสอบการแจ้งที่พักอาศัย มาตรา 37 และ 38 ให้ถูกต้องตามที่คนต่างด้าวหรือเจ้าของที่พักแจ้งไว้ ในระบบ
8. บช.ได้กำหนดแบบตรวจราชการสำหรับทุกส่วนราชการ ซึ่งเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับแบบตรวจราชการของ ตร. (ส่งแบบตรวจให้ทุกด่านแล้ว) จึงกำชับให้ทุกด่านไปจัดทำแฟ้มให้ถูกต้องตามแบบตรวจ โดยให้จัดทำให้สวยงาม มีรายละเอียดครบถ้วน เรียกตรวจสอบได้ง่ายและเป็นปัจจุบัน
พ.ต.ต.หญิงพัชรี ศรีเผือก สว.ฝอ.5 บก.อก.สตม.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น