วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

ศอ.บต. ผนึกกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสารพันธุกรรม (DNA) เดินหน้าพิสูจน์ตัวตนคนไทยไร้สัญชาติ

 ศอ.บต. ผนึกกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสารพันธุกรรม (DNA) เดินหน้าพิสูจน์ตัวตนคนไทยไร้สัญชาติ 



วันนี้ (30 กรกฎาคม 2568) ที่ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมือง จ.ยะลา นายเสกสิทธิ์ สวรรยาธิปัติ ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานเปิดกิจกรรมการตรวจสารพันธุกรรม (DNA) และอบรมเพื่อสร้างความเข้าใจแก่ผู้เข้าร่วมโครงการในประเทศ ครั้งที่ 2 โดยมี รองเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ผู้แทนกรมการปกครอง ผู้แทนผู้ว่าราชการ จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี สงขลา ยะลา และสตูล ผู้แทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้แทนสำนักงานยุติธรรม จังหวัดยะลา ปัตตานี สงขลา และสตูล ผู้อำนวยการสำนัก/กอง หน่วยงานขึ้นตรง ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ตลอดจนประชาชนผู้มาเข้ารับการตรวจสารพันธุกรรม (DNA) เข้าร่วม



สำหรับการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาคนไทยไร้สัญชาติหรือบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้บูรณาการความร่วมมือกับ กรมการปกครอง สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งในพื้นที่จังหวัด ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และสตูล รวมทั้งกลุ่มเป้าหมายที่อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย เพื่อช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาคนด้อยโอกาสและขาดโอกาสทางสังคม ที่อยู่ในสถานะของการเป็นคนไทยไร้สัญชาติหรือบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร ซึ่งสาเหตุของปัญหาเกิดจากการตกสำรวจของทางราชการ การไม่แจ้งเกิด ความยากจน ความเชื่อเฉพาะถิ่น การถูกทอดทิ้ง และการขาดความรู้ความเข้าใจในกระบวนการรับรองสถานะทางทะเบียนราษฎร รวมถึงการไม่มีเอกสารของทางราชการ  ทำให้ประชาชนบางส่วนกลายเป็นคนไทยไร้สัญชาติหรือไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร แม้ว่าบุคคลเหล่านั้นจะสืบสายโลหิตจากบิดามารดาที่เป็นคนไทยก็ตาม ส่งผลให้ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิ เสรีภาพ และการบริการขั้นพื้นฐานต่างๆ จากรัฐอย่างเท่าเทียมกับประชาชนที่มีสัญชาติไทย อาทิ สิทธิในการได้รับการรักษาพยาบาล สิทธิการเข้ารับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สิทธิในทรัพย์สิน เสรีภาพในการประกอบอาชีพ เสรีภาพในการเดินทาง เป็นต้น ดังนั้น เพื่อคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพและอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนอย่างเท่าเทียม โดยคำนึงถึงเกียรติยศและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จึงได้ริเริ่มดำเนินการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ปีงบประมาณพ.ศ. 2560 เป็นต้นมา


 


ปัจจุบันได้ดำเนินการตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรม (DNA) ให้กับคนไทยไร้สัญชาติหรือบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎรเพื่อประกอบการเพิ่มชื่อบุคคลในทะเบียนบ้านและการออกบัตรประจำตัวประชาชนแล้วทั้งหมด จำนวน 2,706 คน แบ่งเป็นในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 2,353 คน และในประเทศมาเลเซีย จำนวน 353 คน




สำหรับในวันนี้มีคนไทยไร้สัญชาติหรือบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎรหรือผู้ร้องขอมีบัตรประจำตัวประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 313 คน และบุคคลอ้างอิง จำนวน 231 คน ซึ่งดำเนินการเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรม (DNA) โดยสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม




นายเสกสิทธิ์ สวรรยาธิปัติ ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ได้กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาคนไทยไร้สัญชาติหรือบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎรในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นการคุ้มครองสิทธิและอำนวยความเป็นธรรมให้กับประชาชน ทั้งในด้านการเข้าถึงบริการภาครัฐ และเป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐให้การช่วยเหลือดูแลประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ด้านสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค ความยุติธรรม และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ การมีบัตรประจำตัวประชาชนจึงเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่ง ที่ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสิทธิดังกล่าว และมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน




ดังนั้น ในการแก้ไขปัญหาคนไทยไร้สัญชาติหรือบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร กรณีที่ไม่สามารถหาหลักฐานหรือพยานบุคคลเพื่อยืนยันการเป็นคนไทยได้ จำเป็นต้องใช้วิธีการอื่นในการแก้ไขปัญหา โดยปัจจุบัน มีการตรวจสารพันธุกรรม (DNA) ความสัมพันธ์ทางสายโลหิต ซึ่งเป็นการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ที่มีความน่าเชื่อถือ จึงถูกนำมาใช้เป็นหลักฐานประกอบการเพิ่มชื่อบุคคลในทะเบียนบ้านและการออกบัตรประจำตัวประชาชนของกรมการปกครอง จากการดำเนินงานตลอดหลายปีที่ผ่านมา ได้ช่วยเหลือให้คนไทยไร้สัญชาติหรือบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร ให้มีบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 2,709 คน เกิดผลกระทบเชิงบวกต่อประชาชน ทั้งในด้านการเข้าถึงบริการภาครัฐ รวมทั้งการมีทัศนคติที่ดีและเกิดความเชื่อมั่นต่อการดำเนินงานของภาครัฐ ซึ่งเป็นการดำเนินการด้านการพัฒนา เพื่อหนุนเสริมการแก้ไขปัญหาในพื้นที่


ตอริก สหสันติวรกุล รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น