วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2567

เทเบิลเทนนิสตำรวจชาย-หญิงกวาดครองแชมป์รุ่นทั่วไปแห่งประเทศไทย

 เทเบิลเทนนิสตำรวจชาย-หญิงกวาดครองแชมป์รุ่นทั่วไปแห่งประเทศไทย 






การแข่งขันเทเบิลเทนนิสชิงแชมป์ประเทศไทย ประเภททีมสโมสร ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 20-23 และ 26-28 เม.ย.67 ที่แจ้งวัฒนะฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ เปิดชิงชัย 10 ประเภท ประกอบด้วย ทีมชาย-หญิงทั่วไป, ทีมเยาวชนชาย-หญิงอายุไม่เกิน 19, 17, 15, 13 ปี ชิงเงินรางวัลรวม 388,000 บาท



เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมาการชิงชัยเดินทางเข้าสู่วันสุดท้าย ไฮไลต์อยู่ในรอบชิงชนะเลิศของประเภททีมหญิงทั่วไปที่มีเหล่านักกีฬาทีมชาติไทยทะลุเข้าถึงรอบสุดท้ายกันคับคั่ง โดยในประเภททีมหญิงทั่วไป คู่ชิงเป็นการดวลกันระหว่าง ทีมเต็ง สโมสรเทเบิลเทนนิสตำรวจ ทีมเอ ปะทะ สโมสรกีฬาเซ็นทรัล ทีมเอ 



ผลการชิงชัยเป็นทางด้านทัพตำรวจที่มีตัวแกนหลักทีมชาติไทยถึงสองคนอยู่ในทีมคว้าชัยไปได้สำเร็จ 3-1 คู่ โดยคู่แรก จิณห์นิภา เสวตรบุตร กับ อุษณี ทวีสัตย์ (ตำรวจ) ชนะ วิรากานต์ ทายะพิทักษ์ กับ ศุภมาศ ปานเขาย้อย (เซ็นทรัล) 3-2 เกม (11-4, 11-9, 4-11, 6-11, 11-5), คู่สอง วรรณวิสาข์ เอื้อวิริยะโยธิน (ตำรวจ) ชนะ ณัฐสิมา ดีแกง (เซ็นทรัล) 3-0 เกม (11-8, 11-8, 11-8), คู่สาม ศุภมาศ ปานเขาย้อย (เซ็นทรัล) ชนะ อุษณี ทวีสัตย์ (ตำรวจ) 3-2 เกม (11-9, 10-12, 6-11, 12-10, 11-7) และคู่สี่ วรรณวิสาข์ เอื้อวิริยะโยธิน (ตำรวจ) ชนะ วิรากานต์ ทายะพิทักษ์ (เซ็นทรัล) 3-1 เกม (9-11, 11-4, 11-8, 11-0) 



สโมสรเทเบิลเทนนิสตำรวจ ทีมเอ ครองแชมป์ทีมหญิงทั่วไปประจำศึกชิงแชมป์สโมสรปี 2567 ตามความคาดหมาย ด้านประเภททีมชายทั่วไปรอบชิงชนะเลิศก็เป็นการปะทะกันของสโมสรเทเบิลเทนนิสตำรวจ ทีมเอ ดวลกับ สโมสรกีฬาเซ็นทรัล ทีมเอ เช่นกัน และก็ยังเป็นหนุ่มๆ นักตบโปลิศที่โชว์ฟอร์มดีไม่แพ้ทีมหญิง ไล่ตบเอาชนะ 3-0 คู่ ส่งให้ประเภททีมชายทั่วไปและทีมหญิงทั่วไปเป็นทัพตำรวจครองถ้วยแชมป์ทั้งหมด



หลังจบการครองแชมป์รุ่นทั่วไปทั้งชายและหญิงของทัพตำรวจ พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 ประธาน กกป.เทเบิลเทนนิส ตร. กล่าวชื่นชมนักกีฬาเทเบิลเทนนิสตำรวจทุกคนว่าสามารถเล่นได้ดีและมีสภาพร่างกายที่แข็งแรง โดยเฉพาะในทีมหญิงที่สามารถล้มแชมป์เก่าได้ ส่วนทีมชายยังคงป้องกันแชมป์ได้อีกครั้ง ต้องขอชื่นชมผู้ฝึกสอนและนักกีฬาที่ตั้งใจฝึกซ้อมและสร้างชื่อเสียงให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ


นายกสภาการแพทย์แผนไทยแจ้งความเอาผิดกรรมการสภาฯ สร้างพยานหลักฐานเท็จ สั่งตนหยุดปฏิบัติหน้าที่

 นายกสภาการแพทย์แผนไทยแจ้งความเอาผิดกรรมการสภาฯ สร้างพยานหลักฐานเท็จ สั่งตนหยุดปฏิบัติหน้าที่






พท.ดร.ชนิญญา ชัยสุวรรณ นายกสภาการแพทย์แผนไทย ได้นำพยานหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง   เพื่อดำเนินคดีจนถึงที่สุดกับกรรมการสภาการแพทย์แผนไทยซึ่งกระทำผิด โดยมีการสร้างพยานหลักฐานเท็จ เพื่อกล่าวหานายกสภาการแพทย์แผนไทยว่ากระทำผิดทางจรรยาบรรณ รวมไปถึงออกคำสั่งหรือแถลงการณ์โดยบุคคลซึ่งไม่มีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2556 ให้นายกสภาการแพทย์แผนไทยหยุดการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวระหว่างการสอบสวน 




ทั้งนี้ การดำเนินคดีกับกรรมการสภาการแพทย์แผนไทยในครั้งนี้ ได้พยานหลักฐานครบถ้วนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ได้พบแถลงการณ์ของบุคคลซึ่งไม่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย และนำไปเผยแพร่ตามสื่อสาธารณะ โดยบุคคลและกลุ่มบุคคลดังกล่าว ได้กระทำความผิดมาอย่างต่อเนื่อง และไม่เคยมีการดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายแต่อย่างใด โดยไม่เคยมีการสอบสวนตามขั้นตอนที่ถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งยังมีการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งในสภาการแพทย์แผนไทยกันอย่างผิดกฎหมาย โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อยึดอำนาจของนายกสภาการแพทย์แผนไทยในการบริหารสภาการแพทย์แผนไทย รวมไปถึงการเบิกจ่ายเงินงบประมาณและบริหารกิจการต่างๆ ของสภาการแพทย์แผนไทย ซึ่งอาจทำให้ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและประชาชนได้รับความเสียหาย รวมไปถึงสร้างความเข้าใจผิด อันเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของสภาการแพทย์แผนไทยและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของนายกสภาการแพทย์แผนไทยที่กำลังดำเนินกิจการของสภาการแพทย์แผนไทยให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามพระราชบัญญัญัติวิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2556 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง




อีกทั้ง กลุ่มบุคคลดังกล่าว ได้พยายามตั้งเรื่องเบิกจ่ายเงินของสภาการแพทย์แผนไทยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายให้กับกลุ่มพรรคพวกของตนเองแล้วหลายครั้ง ตลอดจนมีความพยายามนำพรรคพวกของตนเองเข้ามาดำเนินงานภายในสภาการแพทย์แผนไทย โดยฝ่าฝืนขั้นตอนตามกฎหมาย ซึ่ง ดร.ชนิญญา ได้พยายามห้ามปรามมาโดยตลอด แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวกลับใช้กฎหมู่ไม่ใช้กฎหมาย จนถึงขั้นได้นำเอาพรรคพวกของตนซึ่งยังอยู่ระหว่างการสอบสวนกรณีทุจริตการสอบของสภาการแพทย์แผนไทยในปี 2563 ที่อยู่ระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการ ปปช. กรณีการทุจริตในการจัดสอบเข้ามามีบทบาทสำคัญในการบริหารสภาการแพทย์แผนไทยและการจัดสอบในปี 2567 นี้ ซึ่งจะทำให้มาตรฐานการจัดสอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยครั้งนี้ไม่น่าเชื่อถือ ตามข่าวดังอดีตที่ผ่านมา เนื่องจากจะมีข้อสงสัยจากการที่มีข้อสอบรั่วจากเหตุการณ์ครั้งนั้นว่ามีการซื้อขายข้อสอบกันหรือไม่ อันเป็นผลให้วิชาชีพการแพทย์แผนไทยถูกด้อยค่าว่าไม่มีมาตรฐานและตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนการเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกสภาการแพทย์แผนไทย ของ ดร.ชนิญญา ชัยสุวรรรณ



 ในครั้งนี้  นายกสภาฯ จึงต้องเร่งรัดการใช้กฎหมาย เพื่อห้ามปรามและควบคุมการใช้กฎหมู่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไปยังหน่วยงานต่างๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคงต้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เพื่อยับยั้งความเสียหายที่เกิดจากการกระทำผิดกฎหมายของกรรมการสภาการแพทย์แผนไทยโดยเด็ดขาดตามกฎหมาย เนื่องจากขณะนี้ได้รับพยานหลักฐานชัดเจนและครบถ้วนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



///////