วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2568

กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เสริมเขี้ยวเล็บ เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้าบรรยายพิเศษหัวข้อ “การใช้ AI กับงานตำรวจท่องเที่ยว”

 กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เสริมเขี้ยวเล็บ เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้าบรรยายพิเศษหัวข้อ “การใช้ AI กับงานตำรวจท่องเที่ยว”



เวลา 09:00 น.วันที่ 30 เมษายน พ.ศ.2568 ณ ห้องประชุมแจ้งยอดสุข ชั้น 6 กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เลขที่ 999 หมู่ที่ 1 ถนนสุวรรณภูมิ 4 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ  พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ให้การต้อนรับ ดร.ปริญญา หอมเอนก ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในโอกาสเข้าร่วมบรรยายพิเศษหัวข้อ “การใช้ AI กับงานตำรวจท่องเที่ยว” โดยมีหัวข้อการบรรยายครอบคลุมถึง




- การใช้ AI ในชีวิตประจำวัน

- การใช้ AI กับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ

- การประยุกต์ใช้ AI ร่วมกับเครื่องมือพิเศษของ บช.ทท.

     โดยภายในงาน มีการสาธิตการใช้งานรถปฏิบัติการเคลื่อนที่และระบบกล้อง AI ซึ่งมีผลการปฏิบัติงานจริง และสามารถจับกุมบุคคลตามหมายจับได้แล้วกว่า 170 ราย







     และในวันนี้มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงในสังกัด พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจจากสถานีตำรวจท่องเที่ยวทั่วประเทศ เข้าร่วมรับฟัง และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อยกระดับการใช้เทคโนโลยีในการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ ต่อไป

#ตำรวจท่องเที่ยว

#AIเพื่อความปลอดภัย

#TouristPolice

#ปลอดภัยอุ่นใจไปกับตำรวจท่องเที่ยว

#CALLCENTER1155

#touristpoliceapp

เอสซีจี แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 68 กระแสเงินสดแกร่ง กำไรดีขึ้นทุกธุรกิจ รุก “4 กลยุทธ์” สู้ศึกสงครามการค้าโลก

 เอสซีจี แถลงผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 68 กระแสเงินสดแกร่ง กำไรดีขึ้นทุกธุรกิจ รุก “4 กลยุทธ์” สู้ศึกสงครามการค้าโลก 



1.) ลดต้นทุน แข่งตลาดโลก 2.) ขยายพอร์ตสินค้าคุณภาพ ราคาจับต้องได้

3.) บุกตลาดใหม่ ศักยภาพสูง 4.) สร้างความได้เปรียบจากฐานการผลิตอาเซียน 



กรุงเทพฯ 30 เมษายน 2568 – เอสซีจี เผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 ดีขึ้นกว่าไตรมาส 4 ปี 2567 กระแสเงินสด (EBITDA) แข็งแกร่งต่อเนื่อง 12,889 ล้านบาท กำไร 1,099 ล้านบาท จากการเร่งปรับตัวสู้ความท้าทายในทุกธุรกิจ และมาตรการเสริมความเข้มแข็งการเงินต่อเนื่อง พร้อมยกระดับ “4 กลยุทธ์” 

สู้ศึกสงครามการค้าโลกรุนแรงยืดเยื้อ 1.) ลดต้นทุน แข่งขันกับผู้ผลิตระดับโลก 2.) ขยายพอร์ตสินค้าให้รองรับความต้องการตลาดทุกระดับ ทั้ง “สินค้ามูลค่าเพิ่มสูง สินค้ากรีน และสินค้าคุณภาพ ราคาจับต้องได้” 3.) บุกตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง 4.) สร้างความได้เปรียบโดยส่งออกจากฐานการผลิตที่หลากหลายในภูมิภาคอาเซียน มั่นใจธุรกิจมีเสถียรภาพเติบโตได้ท่ามกลางความท้าทาย 




นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า “ไตรมาส 1 ปี 2568 เอสซีจี 

มีกำไรสำหรับงวด 1,099 ล้านบาท เนื่องจากทุกธุรกิจปรับตัวดีขึ้น ตามมาตรการเสริมความเข้มแข็งทางการเงินที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เร่งยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขัน ด้วยการลดต้นทุนการผลิตและการบริหารจัดการ รวมทั้งการขยายตลาดใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซีเมนต์และการก่อสร้าง 

มีความต้องการเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลก่อสร้างและงบประมาณภาครัฐที่เบิกจ่ายต่อเนื่อง ขณะที่เอสซีจี เคมิคอลส์ 

(เอสซีจีซี) ปรับตัวดีขึ้นจากการบริหารต้นทุนและปรับพอร์ตสินค้า รวมถึงเอสซีจีพี ที่ยังคงแข็งแกร่งจากการมุ่งเน้น

การเติบโตเพื่อรองรับอุปสงค์ของผู้บริโภคภายในประเทศของกลุ่มอาเซียน เสริมพอร์ตสินค้าสำหรับผู้บริโภค (Consumer Packaging) ควบคู่กับการบริหารต้นทุน 




ขณะเดียวกัน เอสซีจี ได้ดำเนินมาตรการเสริมความเข้มแข็งทางการเงินอย่างต่อเนื่อง ทั้งการบริหารจัดการกระแสเงินสด ต้นทุน และเงินทุนหมุนเวียนอย่างระมัดระวัง ส่งผลให้ไตรมาส 1 ปี 2568 เอสซีจี มีกระแสเงินสด (EBITDA) 12,889 ล้านบาท สะท้อนการปรับตัวฉับไวของธุรกิจเพื่อคงศักยภาพการแข่งขันท่ามกลางความ

ท้าทาย 




สำหรับ สถานการณ์สงครามการค้าโลกจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ที่รุนแรง ล่าสุด “กองทุนการเงินระหว่างประเทศ” (IMF) ได้ปรับลดประมาณการการเติบโตเศรษฐกิจโลกปีนี้เหลือเพียง 2.8% ปัจจัยสำคัญมาจาก

การลดประมาณการ GDP ลงเกือบทุกประเทศ สำหรับ GDP ประเทศไทย ปรับลดลงเหลือ 1.8%


เอสซีจี ได้ประเมินสถานการณ์และผลกระทบจากสงครามการค้าโลก พบว่า 1.) ผลกระทบทางตรงต่อเอสซีจี มีเล็กน้อย เนื่องจากในปี 2567 มีการส่งออกไปสหรัฐฯ เพียง 1% จากยอดขายรวมของเอสซีจี 

2.) ผลกระทบทางอ้อม หากพ้นระยะที่สหรัฐฯ ประกาศชะลอการจัดเก็บภาษีนำเข้า 90 วัน กลุ่มประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ อาจถูกเก็บอัตราภาษีที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะในประเทศไทยที่อาจถูกเก็บอัตราภาษีนำเข้าสูงถึง 36% ตามที่สหรัฐฯ ประกาศเมื่อ 2 เมษายน 2568 จึงคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจทั้งในระดับภูมิภาคและโลกจะชะลอตัวรุนแรง การส่งออกระหว่างประเทศ รวมถึงการทะลักของสินค้าจากประเทศอื่นเข้ามาในประเทศไทย จะส่งผลให้

การแข่งขันรุนแรงยิ่งขึ้น” 




นายธรรมศักดิ์ กล่าวว่า “สงครามการค้าได้สร้างแรงกดดันทั่วโลก แต่ยังมีโอกาสที่ซ่อนอยู่ เช่น แนวโน้มราคาน้ำมันโลกที่ลดลง ผู้ผลิตปิโตรเคมีในจีนประสบปัญหาการจัดหาวัตถุดิบจากสหรัฐฯ ตลอดจนบางตลาดยังมีกำลังซื้อสูงสำหรับสินค้ามูลค่าเพิ่มสูง (High-Value Added Products - HVA Products) สินค้ากรีน (Green Products) และสินค้าคุณภาพ ราคาจับต้องได้ (Quality Affordable Products) เอสซีจี จึงยกระดับการปรับตัวให้เข้มข้นรับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ด้วย 4 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ 1.) ลดต้นทุน แข่งขันกับผู้ผลิตระดับโลก 

2.) ขยายพอร์ตสินค้าให้รองรับความต้องการตลาดทุกระดับ ทั้ง “สินค้ามูลค่าเพิ่มสูง สินค้ากรีน และสินค้าคุณภาพ ราคาจับต้องได้” 3.) บุกตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง และ 4.) สร้างความได้เปรียบโดยส่งออกจากฐานการผลิตที่หลากหลายในภูมิภาคอาเซียน ประกอบกับมาตรการเสริมความเข้มแข็งทางการเงินที่ทำต่อเนื่องอย่างได้ผล ทำให้มั่นใจได้ว่าธุรกิจจะสามารถฝ่าความท้าทายจากสงครามการค้าโลกได้อย่างทันท่วงที”


4 กลยุทธ์รับมือสงครามการค้าโลก ของทุกธุรกิจในเอสซีจี

1.) ลดต้นทุน แข่งขันกับผู้ผลิตระดับโลก เพื่อรับมือสินค้าราคาถูกจากประเทศอื่นที่อาจเข้ามาแข่งขัน ด้วยวิธีการดังนี้

• ลดต้นทุนการผลิต (Operation Cost) โดยควบรวมไลน์การผลิต ปรับปรุงประสิทธิภาพ ลดขั้นตอน โดยเพิ่มการใช้ Robotic Automation เช่น เอสซีจี ไฮม์ ใช้หุ่นยนต์อัจฉริยะประกอบบ้านโมดูลาร์ทนแผ่นดินไหวอย่างแม่นยำ และ เอสซีจี เดคคอร์ ผลิตสุขภัณฑ์ COTTO ใช้เครื่องหล่อแรงดันสูงและระบบพ่นสีเคลือบอัตโนมัติด้วยหุ่นยนต์ ให้ขึ้นรูปสุขภัณฑ์ได้รวดเร็ว สีเรียบเนียนสม่ำเสมอ และใช้เทคโนโลยีการประมวลภาพ (Image Processing) ช่วยตรวจวิเคราะห์คุณภาพสินค้าอย่างแม่นยำ เพื่อความมั่นใจในมาตรฐานก่อนส่งถึงมือลูกค้า 

• ลดต้นทุนการบริหารจัดการ (Admin Cost) โดยเพิ่มการใช้ AI ปรับปรุงประสิทธิภาพทั่วทั้งองค์กร เช่น ใช้ AI ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง หรือการคาดการณ์ความผิดปกติของเครื่องจักรก่อนเกิด

ความเสียหาย (Predictive Maintenance) 

• ปรับลดเงินทุนหมุนเวียน (Working Capital) ตลอดห่วงโซ่อุปทาน ส่งผลให้สามารถลดหนี้สินสุทธิ

ลงเหลือ 290,504 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2568 และเพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจ

• เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด โดยใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy) เพิ่มสัดส่วนการ

ใช้พลังงานชีวมวล (Biomass) และพลังงานทางเลือก (Alternative Fuel) ในกระบวนการผลิต เพื่อเสริมประสิทธิภาพ ลดต้นทุน เพิ่มความได้เปรียบด้านการแข่งขัน และรักษ์โลก โดยในไตรมาส 1 ปี 2568 เอสซีจี ใช้พลังงานทางเลือกในกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็น 44% ของเชื้อเพลิงทั้งหมด


2.) ขยายพอร์ตสินค้าให้รองรับความต้องการตลาดทุกระดับ 

• พัฒนา “สินค้ามูลค่าเพิ่มสูงและสินค้ากรีน” (HVA Products & Green Products) ให้ตอบโจทย์ตลาด เช่น กระเบื้องเกรซพอร์ซเลนขนาดใหญ่, ปูนเอสซีจีคาร์บอนต่ำ ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาเป็น Gen 3 ที่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนฯ ได้ประมาณ 40% ตั้งเป้าจำหน่ายในกลุ่มสินค้าปูนตกแต่งใน

ไตรมาสที่ 4 ปี 2568, กลุ่มสินค้าหลังคา ผนังและพื้นตกแต่ง ที่ใช้เทคโนโลยี Digital Printing พร้อม UV Coating เคลือบผิวทนทาน กันเชื้อรา และหลอดฉีดยาและเข็มฉีดยา ที่เอสซีจีพี ผสานความร่วมมือกับ Once Medical Company Limited 

• เพิ่ม “สินค้าคุณภาพ ราคาจับต้องได้” (Quality Affordable Products) ที่มีความต้องการสูง ทำกำไรทันที เช่น เอสซีจี โซลาร์รูฟ ที่ผลิตไฟฟ้าได้เต็มประสิทธิภาพ และมีหลายแพ็กเกจราคาให้เลือก, หลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่น Celica Curve ที่คุ้มค่า ทนทาน สีสวยติดทนกว่าด้วยเนื้อเซรามิก, กระเบื้องคอนกรีตปูพื้นทางเดิน เอสซีจี ที่มีดีไซน์และลายยอดนิยม แข็งแรงทนทาน ใช้ในงานออกแบบได้หลากหลาย และ 

ท่อ PVC เกษตร ที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับความต้องการของเกษตรกร


3.) บุกตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง โดยขยายการส่งออกสินค้า เช่น ปูนเอสซีจีคาร์บอนต่ำ กระเบื้องคอนกรีต 

สมาร์ทบอร์ด กระดาษบรรจุภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์อาหาร ไปยังตลาดใหม่ที่มีศักยภาพและความต้องการ เช่น 

ประเทศที่ปรับตัวและได้ประโยชน์จากสงครามการค้า โดยใช้เครือข่ายของธุรกิจต่าง ๆ ของเอสซีจีที่มีอยู่ทั่วโลก


4.) สร้างความได้เปรียบโดยส่งออกจากฐานการผลิตที่หลากหลายในภูมิภาคอาเซียน โดยสลับฐานการผลิตและส่งออกจากประเทศที่มีอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ต่ำกว่า ฐานการผลิตที่หลากหลายซึ่งเป็นจุดแข็งของเอสซีจี 

จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทันท่วงที เช่น บรรจุภัณฑ์ของเอสซีจีพี ที่มีฐาน

การผลิตและส่งออกได้จากทั้งไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ส่วนปูนเอสซีจีคาร์บอนต่ำ และกระเบื้อง

เกรซพอร์ซเลน สามารถผลิตและส่งออกได้จากทั้งไทย และเวียดนาม


อย่างไรก็ตาม แม้สงครามการค้ายังมีความไม่แน่นอน และอุปสงค์เคมีภัณฑ์ชะลอตัว แต่ เอสซีจีซี คาดว่าจะได้รับอานิสงส์บวกจากราคาน้ำมันโลกที่มีแนวโน้มลดลง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเคมีภัณฑ์ลดลง เอสซีจีซี จึงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดำเนินการเชิงรุกได้แก่ 1.) ลดต้นทุนบริหารอย่างต่อเนื่อง 2.) เพิ่มความยืดหยุ่นของ

ซัพพลายเชนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ รวมทั้งเตรียมความพร้อมของโครงการลองเซินปิโตรเคมิคอลส์ ที่ประเทศเวียดนาม (LSP) ให้กลับมาเดินเครื่องได้เมื่อสถานการณ์เหมาะสม และ 3.) เร่งพัฒนาสินค้ามูลค่าเพิ่มสูง พร้อมขยายธุรกิจสินค้ากรีน และดิจิทัล โซลูชัน เช่น DRS by Repco NEX 


นายธรรมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “เอสซีจีเล็งเห็นถึงความท้าทายที่ภาคอุตสาหกรรมกำลังเผชิญ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งเป็นหัวใจของเศรษฐกิจฐานราก และได้รับผลกระทบ

อย่างมีนัยสำคัญจากสถานการณ์สงครามการค้าโลก จึงพร้อมเปิดบ้านสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ถ่ายทอดความรู้ เสริมศักยภาพ และช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัวและแข่งขันได้ ผ่านโครงการ ‘Go Together’ ที่เดินหน้า

อย่างต่อเนื่อง และจะครบเป้าหมายเฟสแรก 1,200 คนในเดือนพฤษภาคมนี้ รวมถึงโครงการ ‘NZAP’ ที่มีผู้เข้าร่วมแล้ว 106 ราย ด้วยความร่วมมือและการสนับสนุนซึ่งกันและกันนี้ เราจะสามารถก้าวข้ามความท้าทายครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน”

_______


#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

รพ.ศิริราช จับมือ SCGC โชว์นวัตกรรมพอลิเมอร์เพื่อการแพทย์และโครงการด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน ในงาน SiCOE Forum 2025 ขับเคลื่อนการแพทย์ไทยสู่ความยั่งยืน

 รพ.ศิริราช จับมือ SCGC โชว์นวัตกรรมพอลิเมอร์เพื่อการแพทย์และโครงการด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน ในงาน SiCOE Forum 2025 ขับเคลื่อนการแพทย์ไทยสู่ความยั่งยืน




กรุงเทพ : เมื่อเร็ว ๆ นี้ หน่วยบูรณาการศูนย์ความเป็นเลิศ โรงพยาบาลศิริราช (Siriraj Integrated Center of Excellence: SiCOE) นำโดย ศาสตราจารย์ นายแพทย์ อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ร่วมกับ เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC ผู้นำธุรกิจพอลิเมอร์และโซลูชันครบวงจรเพื่อความยั่งยืน นำโดยนายพิสันติ์ เอื้อวิทยา กรรมการผู้จัดการ บริษัทเท็กซ์พลอร์ จำกัด ในกลุ่มธุรกิจ SCGC และผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจนวัตกรรม SCGC จัดแสดงนิทรรศการนวัตกรรมพอลิเมอร์เพื่อความยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “พลาสติกเพื่อชีวิตที่ดีกว่าและเพื่อโลกที่ยั่งยืน” (Plastics for Better Living and a Better Tomorrow) ในงาน “SiCOE Forum 2025 x SDGs” ซึ่งจัดขึ้นโดยหน่วยบูรณาการศูนย์ความเป็นเลิศ โรงพยาบาลศิริราช ทั้งนี้ SCGC ได้นำนวัตกรรมทางการแพทย์พร้อมทั้งโครงการความร่วมมือด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนไปร่วมจัดแสดงแก่คณะแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งผู้สนใจทั่วไป เพื่อขับเคลื่อนระบบสุขภาพและความเป็นเลิศทางการแพทย์สู่อนาคตที่ยั่งยืน อาทิ โซลูชันการจัดการขยะพลาสติกครบวงจรจาก Wake Up Waste นวัตกรรมพลาสติกรีไซเคิลโดยเปลี่ยนวัสดุทางการแพทย์ที่ไม่ใช้แล้วมาสร้างคุณค่าเพิ่มใหม่ เช่น กระเบื้องพีวีซีรีไซเคิลจากถุงน้ำยาล้างไต ถุงพลาสติกรีไซเคิลจากแกลลอนน้ำยาล้างไต รวมไปถึงเครื่องมือทางการแพทย์อื่น ๆ เช่น อุปกรณ์สำหรับรักษาโรคริดสีดวง รถเข็นจ่ายยาอัจฉริยะ ถังทิ้งเข็มฉีดยา เป็นต้น







____


#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

ทรู คลิกไลฟ์ เปิดปฏิบัติการ “Reshaping Education for Gen Alpha” ชูกลยุทธ์ปูทางการเรียนรู้ตอบโจทย์เด็กยุคดิจิทัล เสริมแกร่ง ร.ร. เอกชนไทยทุกมิติ พร้อมก้าวทันโลกอนาคต

 ทรู คลิกไลฟ์ เปิดปฏิบัติการ “Reshaping Education for Gen Alpha” ชูกลยุทธ์ปูทางการเรียนรู้ตอบโจทย์เด็กยุคดิจิทัล เสริมแกร่ง ร.ร. เอกชนไทยทุกมิติ พร้อมก้าวทันโลกอนาคต

 


กรุงเทพฯ 29 เมษายน 2568 – การศึกษายุคใหม่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเทคโนโลยีเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่เข้ามามีบทบาทในทุกมิติของการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา วิธีการสอน การประเมินผลและการจัดการเรียนรู้ห้องเรียนในอนาคต หรือแม้แต่บทบาทของครูและผู้เรียน ด้วยเหตุนี้ ทรู คลิกไลฟ์ นำโดย ดร.เนตรชนก วิภาตะศิลปิน หัวหน้าสายงานกลยุทธ์องค์กรและด้านการศึกษา บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เดินหน้าจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ ทรู คลิกไลฟ์ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2568 ในหัวข้อ ในหัวข้อ  "Reshaping Education for Gen Alpha ก้าวสู่อนาคตแห่งการเรียนรู้ โรงเรียนเอกชนไทยยุคเจนอัลฟา" ยกระดับการศึกษาในยุค AI สู่การเรียนรู้ไร้ขีดจำกัด เพื่อเสริมทักษะใหม่ๆ ในทุกมิติเกี่ยวกับการศึกษาแห่งอนาคต ให้แก่บุคลากรทางการศึกษาที่เข้าร่วมหลักสูตรทรู คลิกไลฟ์ อย่างต่อเนื่อง กว่า 500 คน ทั่วประเทศ ให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น เสริมการบริหารองค์กรให้ผู้บริหารสถานการศึกษาและคุณครูผู้ใช้หลักสูตรทรู คลิกไลฟ์ พร้อมทั้งต่อยอดองค์ความรู้ใหม่ๆ ให้แก่บุคลากรทางการศึกษา นำนวัตกรรมทรู คลิกไลฟ์ ซึ่งมี 5 หลักสูตร ได้แก่ เทคโนโลยีวิทยาการคำนวณ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน โรโบติกส์ และดนตรี ครอบคลุมตั้งระดับชั้นอนุบาล ประถม จนถึงมัธยม ไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ยิ่งไปกว่านั้น ภายในงาน ยังมีพิธีมอบเกียรติบัตรแก่ครูดีเด่นโดยพิจารณาจากคุณภาพการสอน ความสามารถในการควบคุมชั้นเรียนและใช้นวัตกรรมสื่อการสอนให้เข้ากับบริบทของโรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2567 อีกด้วย ณ โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ กรุงเทพฯ

 


นอกจากนี้ ทรู คลิกไลฟ์ จัดทัพวิทยากรชั้นนำหลากหลายสาขา ทั้งด้านเทคโนโลยี จิตวิทยาเด็ก มีการจัดเสวนาเรื่อง “Digital Learning พลิกโฉมการเรียนรู้ Gen Alpha” โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาและนักเศรษฐศาสตร์ ดร.การดี เลียวไพโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่อนาคตศาสตร์และสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัท ฟิวเจอร์เทลส์แล็บ โดย MQDC และผศ.พญ. จิราภรณ์ อรุณากูร อาจารย์แพทย์ด้านเวชศาสตร์วัยรุ่น คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี  เปิดเวทีแลกเปลี่ยนมุมมอง ความรู้ และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ในการพัฒนาการศึกษา โดยเน้นไปที่การเรียนรู้ของเด็กยุค Gen Alpha ซึ่งเป็นกลุ่มเด็กที่เติบโตมาท่ามกลางเทคโนโลยีและโลกออนไลน์  เป็นการสร้างแรงบันดาลใจและแนวทางในการปรับตัวให้กับโรงเรียนเอกชนไทย เพื่อให้สามารถ “ก้าวทันโลก ทันเด็ก ทันอนาคต” อย่างแท้จริง  ขณะเดียวกันยังได้มีการอบรมให้แนะนำเทคนิคที่จำเป็นในการจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการใช้นวัตกรรมสื่อการเรียนรู้เพื่อสร้างชั้นเรียนคุณภาพ โดยฝ่ายวิชาการของทรู คลิกไลฟ์ และวิทยากรรับเชิญอีกมายมาย

 

• เดินหน้าพัฒนาหลักสูตรต่อเนื่อง เพื่อก้าวทันการศึกษายุค AI



โรงเรียนเอกชนไทยกว่า 100 โรงเรียนให้การยอมรับ ทรู คลิกไลฟ์ หนึ่งในผู้นำนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์แบบครบวงจร ภายใต้การดำเนินงานของ ทรู คอร์ปอเรชั่น นำโดย ดร.เนตรชนก วิภาตะศิลปิน หัวหน้าสายงานกลยุทธ์องค์กรและด้านการศึกษา กล่าวให้ความเชื่อมั่นกับผู้บริหารและคุณครู ถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง พร้อมพัฒนานวัตกรรมสื่อการเรียนการสอน นำพาโรงเรียนเอกชนก้าวข้ามทุกการเปลี่ยนแปลง ด้วยมั่นใจว่าโรงเรียนเอกชนจะเป็นต้นแบบที่ทำให้การศึกษาเปลี่ยนทันโลก โดยให้ความสำคัญกับเรื่อง AI ที่จะต้องปรับตัวเราให้ตามทันเหตุการณ์โลก รวมถึงเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมต้องควบคู่ไปด้วย เพราะเชื่อว่าอย่างไรคนก็สำคัญที่สุด “ทรู คลิกไลฟ์ ปรับหลักสูตรใช้ AI อย่างมีประโยชน์สูงสุด รู้ทันเทคโนโลยี หลักสูตรทรู คลิกไลฟ์ มีนวัตกรรมสื่อมัลติมีเดียที่ใส่ใจทุกขั้นตอน กลั่นกรองจากภาควิชาการ ทั้งในและต่างประเทศ จึงอยากให้ทุกโรงเรียนมั่นใจในคุณภาพของหลักสูตรเรา เด็กจะต้องได้รับประโยชน์มากที่สุด และในปีนี้เราได้พัฒนาแพลตฟอร์ม G-CONNECT เพิ่มฟังก์ชันเพื่อใช้ในการบริหารจัดการชั้นเรียนและบุคลากรในโรงเรียนได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น อาทิ แผนการเรียนการสอน ระบบข้อมูลบุคลากร ห้องสมุดดิจิทัล เป็นต้น และเป็นที่น่ายินดีที่เรากำลังจะเปิดหลักสูตรการเงิน (Mini Millionaire Financial for School) เป็นพื้นฐานการเงินที่เด็กๆ ควรเรียนรู้ รวมถึงวิธีการออมเงินสู่ความมั่นคงในอนาคต นี่ คือสิ่งที่หลักสูตรทรู คลิกไลฟ์ ได้เตรียมปูพื้นฐานให้กับเด็กยุคอัลฟา ด้วยนวัตกรรมการเรียนรู้ที่จะช่วยโรงเรียนเอกชนเตรียมพร้อมเด็กทุกคนสู่ยุคใหม่ของการศึกษาอีกด้วยค่ะ” 

 


• ผลสัมฤทธิ์ที่ทางโรงเรียนภูมิใจที่สุด


ว่าที่ร้อยตรีหญิง เยาวลักษณ์ ทศช่วย ผู้บริหารโรงเรียนไตรนิธิวิทยา จ.ระยอง เล่าถึงความรู้สึกว่า “โรงเรียนมีความเชื่อมั่นตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่ได้เข้าร่วมหลักสูตรทรู คลิกไลฟ์ ประทับใจในวิสัยทัศน์ของผู้บริหารของทรู คลิกไลฟ์มาก ๆ มั่นใจว่าหลักสูตรก้าวทันเทคโนโลยีแน่นอน เป็นหลักสูตรที่น่าสนใจมาก เพราะทรู คลิกไลฟ์ ไม่ได้ออกแบบมาแค่ให้เด็กเรียนแล้วจบ แต่สิ่งที่สำคัญยังสอดแทรกเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมเข้าไปด้วย เหมาะกับนำไปสอนเด็ก ๆ ยุคเจนอัลฟามาก คุณครูมีกังวลเรื่องเทคโนโลยีด้วยว่าถ้าเรียนแล้วเด็ก ๆ จะติดจอเกินไปหรือเปล่า จะเกิดผลกระทบหรือไม่ แต่ไม่ใช่เลยค่ะ ทรู คลิกไลฟ์ ออกแบบหลักสูตรดีมากที่จะไม่ให้เด็กติดจอ และยังมีกิจกรรมออฟไลน์ต่าง ๆ เข้ามาช่วย สิ่งที่ครูภูมิใจ คือผลสัมฤทธิ์ของทางวิชาเทคโนโลยีที่ทางโรงเรียนได้เป็นตัวแทนของจังหวัดไปแข่งระดับภาคตะวันออกและได้รับรางวัล ในส่วนของหลักสูตรดนตรี ก็ได้เป็นตัวแทนของจังหวัดไปแข่งระดับภาคตะวันออกมาอีกเช่นกัน เด็ก ๆ ได้สนุกกับการเรียนมากกว่าที่เราคาดไว้ นี่คือสิ่งที่เราได้จากโปรแกรมการเรียนการสอนจากทรู คลิกไลฟ์ค่ะ”

 


ร.ร. วิระถาวอน สปป.ลาว มั่นใจใช้หลักสูตรทรู คลิกไลฟ์

นางสาวสุนิตตา พิมมะสอน หัวหน้าหมวดภาษาต่างประเทศจากโรงเรียนวิระถาวอน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้เข้าร่วมเวิร์กช็อปครั้งนี้ว่า “เป็นครั้งแรกที่ได้มาเข้าร่วมอบรม รู้สึกตื่นเต้นที่ได้มาเรียนรู้อบรมเพิ่มเติม และฟังเสวนาจากวิทยากรได้ความรู้มากมาย ด้วยปัจจุบันเป็นยุคที่ AI เข้ามามีบทบาท คุณครูจึงอยากมาอัปเดตเทรนด์แนวทางเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีให้มากที่สุด เพราะจะได้นำไปปรับใช้สอนนักเรียน เพื่อให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลก และดีใจที่จะได้มาพบปะและแลกเปลี่ยนความรู้กับโรงเรียนอื่น ๆ ทางโรงเรียนวิระถาวอน ใช้หลักสูตรทรู คลิกไลฟ์ จัดการเรียนการสอนครบ 1 ปีแล้ว เด็กๆ ค่อนข้างตื่นเต้นกับหลักสูตรใหม่ ๆ ที่ได้เรียน เพราะมีทั้งสื่อการเรียนการสอนแบบใหม่ ๆ ที่ไม่เหมือนการเรียนในรูปแบบเดิม เด็กๆ สนุกทุกชั่วโมงในการเรียน มีหลายคนชอบวิชาจีนมาก ก็จะหัดพูดสื่อสารภาษาจีนกัน เราเป็นคุณครูก็ตื่นตันที่เด็กๆ ให้การตอบรับและสนุกกับการเรียนมากขึ้น ซึ่งมั่นใจว่าหลักสูตรทรู คลิกไลฟ์ จะมีบทบาทในการพัฒนาการเรียนการสอนให้กับเด็ก ๆ ค่ะ”

 


ทรู คลิกไลฟ์ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาหลักสูตรให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถสร้างทักษะที่จำเป็นในอนาคตให้กับเยาวชน เตรียมความพร้อมให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยมีเทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม  ทั้งนี้ โรงเรียนเอกชนที่สนใจเข้าร่วมหลักสูตรการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์แบบครบวงจรของทรู คลิกไลฟ์ ทั้ง 5 หลักสูตร ได้แก่ เทคโนโลยีวิทยากรคำนวณ อังกฤษ จีน โรโบติกส์ และดนตรี


สามารถติดต่อ 089-116-0239 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.trueclicklife.com

 

#TrueClickLife #ทรูคลิกไลฟ์ #หลักสูตร #นวัตกรรมสื่อการเรียนรู้

____


#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

รับมือมิจใกล้ฉัน... True CyberSafe ปกป้องภัยไซเบอร์ อัปเกรดฟีเจอร์ใหม่ เพิ่มความปลอดภัยครอบคลุมยิ่งกว่าเดิม — ใช้ฟรี ไม่ต้องโหลดแอป

 รับมือมิจใกล้ฉัน... True CyberSafe ปกป้องภัยไซเบอร์ อัปเกรดฟีเจอร์ใหม่ เพิ่มความปลอดภัยครอบคลุมยิ่งกว่าเดิม — ใช้ฟรี ไม่ต้องโหลดแอป

 


ภัยไซเบอร์ในปัจจุบันมาไวกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นลิงก์ปลอม โทรศัพท์หลอกลวง หรือ SMS ชวนให้หลงกล หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าทุกคลิก ทุกสาย อาจหมายถึงข้อมูลส่วนตัวหรือเงินในบัญชีที่สูญหาย แต่วันนี้ ทรูร่วมเป็นอีกหนึ่งเกราะป้องกันให้คนไทยด้วย True CyberSafe — บริการป้องกันภัยไซเบอร์ที่ใช้ AI ขั้นสูง ช่วยสแกน บล็อก และเตือนภัยแบบเรียลไทม์ ไม่ต้องสมัคร ไม่ต้องโหลดแอป และ ฟรี! สำหรับลูกค้าทรู ดีแทค และเน็ตบ้านทรูออนไลน์

 

สถิติตัวเลขที่สะท้อนการปกป้องอย่างต่อเนื่อง !  

True CyberSafe ช่วยปกป้องลูกค้าจากการคลิกลิงก์แปลกปลอมได้แล้วถึง 819 ล้านครั้ง (โดยเฉลี่ย 7 ล้านครั้งต่อวัน)  คิดเป็น 98.7% ที่ระบบสามารถปกป้องสกัดกั้นได้ทันเวลา นับตั้งแต่เริ่มให้บริการ 3 ธันวาคม 2567 จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2568  

 



ฟีเจอร์เด่น ของ True CyberSafe ที่ช่วยปกป้องคุณจากมิจฉาชีพและภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นทุกวัน!


 1. บล็อกลิงก์อันตรายแบบเรียลไทม์  : ซึ่งมีหลักการทำงานง่ายๆ แต่พร้อมเซฟลูกค้าให้ทันท่วงที ดังนี้ เมื่อลูกค้าเผลอคลิกลิงก์จากข้อความ (SMS) ที่ได้รับ หรือเว็บไซต์แปลกปลอม

• ระบบจะบล็อกลิงก์ที่อยู่ในรายชื่อ Blacklist จากตำรวจไซเบอร์และภาครัฐทันทีที่ลูกค้าเผลอคลิก  

• หากลิงก์ไม่อยู่ใน Blacklist แต่สุ่มเสี่ยง — ระบบจะแสดงข้อความเตือน “โปรดระวัง อาจเป็นเว็บไซต์อันตราย”  ทันที พร้อมให้ลูกค้ารอตัดสินใจ 60 วินาทีก่อนยืนยันเข้าเว็บ

• ขณะนี้มีลิงก์สุ่มเสี่ยงในระบบ True CyberSafe มากกว่า 165,000 ลิงก์ และจะเพิ่มต่อเนื่อง


2. Call AI Filter คัดกรองหรือแจ้งเตือนสายเรียกเข้าที่อาจเป็นมิจฉาชีพ

• ใช้ AI ประมวลผลข้อมูล

• ใช้ข้อมูลหมายเลขต้องสงสัยจากตำรวจไซเบอร์รวมกว่า 300,000 หมายเลข

• แจ้งเตือนสายเรียกเข้าที่อาจเป็นมิจฉาชีพทันที


3. SMS AI Filter  แจ้งเตือนเมื่อมี SMS ต้องสงสัย ซึ่งจะเปิดให้บริการภายในปี 2568

 

นอกจากนี้ ยังมี “บริการ 9777 แจ้งบล็อกสายมิจฉาชีพ Scam Report” โดยความร่วมมือของภาครัฐ-ภาคเอกชน-ภาคประชาชน ซึ่งได้มีการยกระดับการรายงานสายมิจฉาชีพได้ง่ายๆ แบบครบวงจร One Stop Service ผ่าน 3 ช่องทาง

ดังนี้


1. กด *9777# โทรออก แจ้งเบอร์ล่าสุดที่เพิ่งโทรเข้าภายใน 5 นาทีหลังรับสาย

2. กด *9777* ตามด้วยเบอร์ต้องสงสัย # โทรออก เพื่อแจ้งระบุเบอร์ 

3. แคปหน้าจอที่แสดงข้อความ หมายเลข และลิ้งก์ต้องสงสัย แล้วส่ง MMS ไปที่หมายเลข 9777

 

โดยจะมีทีมงานพิเศษ และระบบ AI คอยตรวจสอบ คัดกรองข้อมูล พร้อมแจ้งผลอย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง หากเป็นมิจฉาชีพจริง จะบล็อกทันที ตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ฯ

 

ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมดูแลความปลอดภัยไซเบอร์ของลูกค้าทุกคน โดยมุ่งมั่นให้บริการระบบป้องกันภัยไซเบอร์ที่ดีที่สุด และเข้าใจถึงความกังวลของผู้บริโภค ด้วยบริการ "True CyberSafe" ฟรีสำหรับทุกคน

 

รายละเอียดเพิ่มเติม “True CyberSafe”  ได้ https://www.true.th/services/true-cyber-safe

 

#TrueCyberSafe #ทรูไซเบอร์เซฟ

#Truedtac5G 

#ปกป้องภัยไซเบอร์ #มิจฉาชีพ 

____


#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

กลุ่มบริษัท อีสท์ วอเตอร์ เปิดวงหารือ สส.ชลบุรี ลุยสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้น้ำกิจการประปาสัตหีบ

 กลุ่มบริษัท อีสท์ วอเตอร์ เปิดวงหารือ สส.ชลบุรี ลุยสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้น้ำกิจการประปาสัตหีบ

 


​กลุ่มบริษัท อีสท์ วอเตอร์ ร่วมหารือกับ ดร.สะถิระ เผือกประพันธุ์ สส.ชลบุรี สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้น้ำประปากิจการประปาสัตหีบ เร่งเครื่องพัฒนาโครงการพัฒนาการสูบส่งน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ชาวสัตหีบมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนพื้นที่สัตหีบ พร้อมเดินหน้าทำงานสนองความต้องการของผู้ใช้น้ำประปาอย่างบูรณาการร่วมกัน



​กลุ่มบริษัทอีสท์ วอเตอร์ โดยกิจการประปาสัตหีบ หารือร่วมกับดร.สะถิระ เผือกประพันธุ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดชลบุรี เขต 10 พรรคกล้าธรรม เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้น้ำในพื้นที่บริการของกิจการประปาสัตหีบ โดยมีแผนพัฒนาโครงการบริหารจัดการระบบผลิตน้ำประปาอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์แล้วเสร็จภายใน ปี 2568 ดังนี้ติดตั้งระบบระบายอากาศในเส้นท่อ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่งน้ำและลดท่อแตกรั่ว ดำเนินการแล้วเสร็จในเดือน เมษายน 2568 โครงการวางท่อส่งน้ำเสริมแรงดันประปาเทศบาล 99 พลูตาหลวง เพื่อเสริมแรงดันการจ่ายน้ำแก้ปัญหาพื้นที่โซนสูง เพิ่มปริมาณแรงดัน และแก้ปัญหาน้ำไหลอ่อน คาดการณ์แล้วเสร็จเดือนกันยายน 2568 โครงการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเสริมแรงดัน ถนนสาย 332 เพื่อเสริมแรงดันการจ่ายน้ำแก้ปัญหาพื้นที่โซนสูง คาดการณ์แล้วเสร็จเดือนพฤศจิกายน 2568 โครงการติดตั้งเครื่องสูบเพื่อเพิ่มแรงดันเส้นท่อหลักจ่ายน้ำ เพื่อเพิ่มปริมาณและแรงดันจากสถานีผลิต คาดการณ์แล้วเสร็จเดือนพฤศจิกายน 2568



นอกจากโครงการพัฒนาศักยภาพการส่งน้ำในพื้นที่สัตหีบที่ได้กล่าวมาแล้ว กลุ่มบริษัท อีสท์ วอเตอร์ ยังมีการตรวจวัดคุณภาพน้ำประปา การเก็บน้ำเพื่อตรวจวัดคุณภาพน้ำที่สถานีผลิตน้ำ การสุ่มเก็บตรวจวัดคุณภาพน้ำในเขตพื้นที่บริการ 10 จุด เป็นประจำทุกเดือน รวมทั้งมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาปรับใช้ในทุกโครงการ



กลุ่มบริษัท อีสท์ วอเตอร์ ยึดมั่นในการสร้างความมั่นคงด้านน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกอย่างต่อเนื่อง พัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชน ก่อให้เกิดการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ เพื่อให้ประชาชนชาวสัตหีบมีน้ำประปาใช้อย่างเพียงพอมีคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อตอกย้ำวิสัยทัศน์ ผู้นำในการสร้างความมั่นคงของการจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำครบวงจรของประเทศด้วยสมาร์ทเทคโนโลยี สร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานการบริหารจัดการที่โปร่งใสมีธรรมาภิบาลที่ยั่งยืนต่อไป

____


#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

เทศบาลตำบลซับสมอทอด เชิญชวนไปเลือกตั้ง

 เทศบาลตำบลซับสมอทอด เชิญชวนไปเลือกตั้ง  



    วันที่ 30 เมษายน 2568

     นายวสันต์ นนทสันต์ ปลัดเทศบาลตำบซับสมอทอด รักษาการแทนนายกเทศมนตรี เดินรณรงค์ ขอเรียนเชิญประชาชนในเขต เทศบาลตำบลซับสมอทอด ไปเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกเทศบาล ณ​ ที่หน่วยเลือกตั้ง ที่ท่านมีรายชื่ออยู่ในเขตเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 08.00 น.ถึง 17.00 น.










    สนับสนุนข่าวโดย นายบุญเลิศ พุทธเจริญเจ้าของไร่มะขามหวาน ชนิกา อ.บึงสามพัน จ. เพชรบูรณ์ 

   ร้านแจ็ค ไดนาโมแอร์ ตรงข้ามวิทยาลัยการอาชีพภาคเหนือ อบึงสามพัน จ. เพชรบูรณ์

   จีรพัฒณ์ บวรกุล#แดง บึงสามพัน ผู้สื่อข่าวเพชรบูรณ์

อบจ.เพชรบูรณ์ ส่งมอบวัสดุอุปกรณ์ในการป้องกันโรคไข้เลือดออก และอบรมพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุข ภาคีเครือข่าย ภายใต้โครงการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกจังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปี พ.ศ. 2568

 อบจ.เพชรบูรณ์ ส่งมอบวัสดุอุปกรณ์ในการป้องกันโรคไข้เลือดออก และอบรมพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุข ภาคีเครือข่าย ภายใต้โครงการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกจังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปี พ.ศ. 2568

.



วันที่ 30 เมษายน 2568 เวลา 08.30 น. ณ หอประชุมโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ (วังชมภูวิทยาคม) นายอัครเดช ทองใจสด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ และภาคีเครือข่าย ร่วมส่งมอบวัสดุอุปกรณ์ในการป้องกันโรคไข้เลือดออก ตามโครงการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกจังหวัดเพชรบูรณ์ ปี พ.ศ.2568 เพื่อเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกในจังหวัดเพชรบูรณ์ และจัดหาวัสดุอุปกรณ์สนับสนุนให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับใช้ในการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชน ในการร่วมมือกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย อันจะส่งผลให้ลดการเกิดโรคไข้เลือดออกและโรคติดต่อนำโดยแมลงอื่นๆ อีกด้วย โดยได้ดำเนินการจัดหาผลิตภัณฑ์ป้องกัน และกำจัดลูกน้ำยุงลายชนิดเม็ด สารเคมีพ่นกำจัดยุงตัวแก่ ผลิตภัณฑ์ไล่ยุงชนิดฉีดพ่นสเปรย์ และป้ายไวนิลเพื่อใช้ประชาสัมพันธ์ในชุมชน สนับสนุนให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ มูลนิธิชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ นำไปใช้ดำเนินการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อนำโดยยุงในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีนายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธาน และได้มอบนโยบายพร้อมให้กำลังใจบุคลากรสาธารณสุขและประธานอาสาสมัครสาธารณสุขในการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกในจังหวัดเพชรบูรณ์อีกด้วย











    สุรพล ก้องเพชรศักดิ์ ที่ปรึกษา สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย(สภท.)