วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ทนายกิจจา นำตัวแทนผู้เสียหายร้องขอความเป็นธรรมทางคดีต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหลังถูกบริษัทดำเนินคดีกับสมาชิกที่มีการถอนเงินตามสิทธิ์ที่บริษัทประกาศไว้ ซึ่งคดีนี้มี นายตำรวจเข้ามาแทรกแซงการดำเนินคดี

 ทนายกิจจา นำตัวแทนผู้เสียหายร้องขอความเป็นธรรมทางคดีต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหลังถูกบริษัทดำเนินคดีกับสมาชิกที่มีการถอนเงินตามสิทธิ์ที่บริษัทประกาศไว้ ซึ่งคดีนี้มี นายตำรวจเข้ามาแทรกแซงการดำเนินคดี



ทนายกิจจา อาลีอิสเฮาะ นำ 1 ในตัวแทนผู้เสียหาย 21 คน ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ต่อ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหลัง ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคดีเนื่องจากมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนายทั้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหัวหน้าสถานีตำรวจรายท้องที่แทรกแซงการทำสำนวนคดีเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนไม่มีความเป็นอิสระในการทำสำนวนขอถอนตัวจากการเป็นพนักงานสอบสวนหลายคน




โดยผู้ร้องกล่าวว่า เป็นสมาชิกจากการสมัครแพลตฟอร์ม “COREASSET" ของบริษัทซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับดิจิทัล access โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อเล่นกิจกรรมที่บริษัทประกาศโฆษณาประชาสัมพันธ์เชิญชวน โดยให้สามารถถอนเงินได้ทุกวัน เมื่อผู้ร้องพร้อมพวก 20 กว่าคน เข้าไปสมัครเป็นสมาชิกแล้วเล่นกิจกรรมตามที่บริษัทประกาศโฆษณาเชิญชวนไว้กลับไม่ชำระเงินให้กับสมาชิกตามที่ ประกาศเชิญชวน



ต่อมาบริษัทดำเนินคดีกับสมาชิกที่มีการถอนเงินตามประกาศโฆษณาของบริษัทในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงบริษัท ที่สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกผู้ร้องในฐานะผู้ต้องหา ซึ่งผู้เสียหายทุกคนก็ได้นำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ต่อพนักงานสอบสวนพนักงานสอบสวนเห็นว่าคำให้การและพยานเอกสารประกอบคำให้การแก้ข้อกล่าวหาของบริษัทได้ จึงไม่แจ้งข้อกล่าวหาใดใดกับผู้ร้อง เพราะพฤติการณ์ของผู้ร้องกับพวกไม่มีความผิดตามที่บริษัทกล่าวหา แต่ทางบริษัทยังคงเดินหน้าดำเนินคดี โดยให้ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นนายทุนของบริษัท และเป็นเจ้าของบริษัทที่แท้จริง แทรกแซงการทำงานของพนักงานสอบสวน จนพนักงานสอบสวนไม่มีความเป็นอิสระในการทำสำนวนคดี และได้รับแรงกดดัน จนขอถอนตัว บริษัทได้ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเปลี่ยนพนักงานสอบสวน 2-3 ครั้ง ทุกครั้งพนักงานสอบสวนคนใหม่ ก็มีความเห็นเหมือนกันว่าผู้ร้องไม่มีความผิด จึงไม่แจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งผู้ร้องกับพวกมีหลักฐานและมีบุคคลที่เป็นพยานว่านายตำรวจที่เป็นนายทุนและเจ้าของบริษัทที่แท้จริงอยู่เบื้องหลังการแทรกแซงครั้งนี้ พร้อมเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกรรมการบริษัท ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บริหารจัดการและดูแลเงินของบริษัท ในข้อหาแจ้งความเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญา ซึ่งกรรมการบริษัทที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหานี้เป็นตัวแทนของบริษัทเข้าร้องทุกข์แจ้งความผู้เสียหายทั้งหมด 



อย่างไรก็ตาม ยืนยันจะเดินหน้า ร้องขอความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน ให้ดำเนินการตามกฏหมายกับ นายตำรวจที่เข้ามาแทรกแซงและผู้ที่กล่าวหาผู้ร้องทุกคน


หลังจากยื่นหนังสือร้องเรียนที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ผู้ร้องได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้กำกับสถานีตำรวจทุ่งสองห้อง เพื่อขอความเป็นธรรมต่อไป


ทีมข่าวอาชญากรรม รายงาน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น