วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2567

วิเคราะห์ผลโหวต“ไลน์ทูเดย์โพล”สะท้อนประชาธิปัตย์มีแนวโน้มดีขึ้น หลัง“หัวหน้าพรรคเฉลิมชัย"ติดอันดับ 1ใน4ติดต่อกัน2เดือนซ้อน

 วิเคราะห์ผลโหวต“ไลน์ทูเดย์โพล”สะท้อนประชาธิปัตย์มีแนวโน้มดีขึ้น

หลัง“หัวหน้าพรรคเฉลิมชัย"ติดอันดับ 1ใน4ติดต่อกัน2เดือนซ้อน



นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคประชาธิปัตย์เปิดเผยการวิเคราะห์ผลสำรวจคะแนนความนิยมบุคคลทางการเมืองของ“ไลน์ทูเดย์” (Line Today)ในช่วงเดือนกันยายนและตุลาคม 2567 วันนี้ว่า ศูนย์เทคโนโลยีนวัตกรรมเพื่อการสื่อสารและคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์วิเคราะห์กรณีที่ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังคงได้รับเสียงโหวตและรักษาตำแหน่งอันดับที่ดีของความนิยมบุคคลทางการเมืองได้อย่างต่อเนื่อง มีผลต่อความนิยมของพรรคประชาธิปัตย์โดยตรง


ทั้งนี้ผลสำรวจ5 อันดับแรกความนิยมของบุคคลทางการเมืองในเดือนตุลาคม ของ“ไลน์ทูเดย์โพล”(Line Today Poll)ปรากฏผลดังนี้ 

อันดับที่ 1 แพทองธาร ชินวัตร 20.92% อันดับที่ 2 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 19.76% อันดับที่ 3 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส 11.09% 

อันดับที่ 4 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน 10.26% อันดับที่ 5 พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค 7.3% 


“การสำรวจความนิยมของประชาชนล่าสุดแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนของประชาชนต่อนักการเมืองทั้ง 5 ยังคงมีความนิยมอย่างต่อเนื่อง 

ซึ่งการที่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนติด 1 ใน 5  ต่อเนื่องจากเดือนกันยายน2เดือนซ้อนสะท้อนถึงแนวโน้มอนาคตทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างน่าสนใจ ซึ่งเป็นผลมาจากการปฏิรูปพรรคในยุคเปลี่ยนผ่าน(Transformation period)ของคณะผู้บริหารชุดใหม่โดยการนำของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อนภายใต้วิสัยทัศน์ก้าวหน้าทันสมัยทันโลก การขับเคลื่อนพรรคแนวใหม่ด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรม การขยายบทบาทพรรคในต่างประเทศ การเปิดพรรคกว้างสร้างเครือข่ายทุกภาคส่วนการสนับสนุนคนรุ่นใหม่อย่างจริงจังตลอดจนการแสดงจุดยืนในประเด็นสำคัญอย่างตรงไปตรงมาเช่น ประเด็นนิรโทษกรรม ประเด็นเกาะกูดกับเอ็มโอยู.ไทย-กัมพูชา ประเด็นกาสิโน ประเด็นคดีตากใบ การนำเสนอแนวคิดใหม่ๆตอบโจทย์ปัญหาปัจจุบันและอนาคตของประชาชนและประเทศชาติเป็นต้น รวมทั้งการทำงานหนักของ3กลไกคืองานสภาฯงานพรรคและงานรัฐมนตรีโดยเฉพาะดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ทำงานเชิงรุกในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ปัญหาที่ดินทำกินในพื้นที่ป่า ปัญหาฝุ่นพิษPM2.5 ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(Climate Change) ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติบนบกและในทะเล ปัญหาการบุกรุกทำลายป่า ฯลฯ.  ทั้ง3กลไกยังต้องทุ่มเททำงานหนักมากขึ้นเพื่อสร้างศรัทธาของประชาชนอย่างต่อเนื่องต่อไป”

รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคกล่าวในที่สุด.



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น