เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2563 ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของสำนักงาน กศน.จังหวัดสมุทรสาครห้องสมุดประชาชน "เฉลิมราชกุมารี" อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร และศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาสมุทรสาคร ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัด สำนักงาน กศน. โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบาย รับฟังปัญหาและอุปสรรคต่างๆในการทำงาน โดยมี นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายมนตรี ลิมาภิรักษ์ ผู้อำนวยการ สำนักงาน กศน.จังหวัดสมุทรสาคร นางวรภร ประสมศรี รองผู้อำนวยการ ข้าราชการ พนักงานราชการและลูกจ้าง ให้การต้อนรับแบบไม่ทันตั้งตัว
ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวตอนหนึ่งว่า “ จากการรายงานผลการดำเนินงานและการจัดการศึกษาของสำนักงาน กศน.จังหวัดสมุทรสาครนั้น ตนขอชื่นชมการทำงานของผู้บริหาร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ร่วมแรงร่วมใจขับเคลื่อนงาน กศน.ได้ตามเป้าประสงค์อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดทำสื่อการศึกษาออนไลน์เกี่ยวกับหลักสูตรพื้นฐาน ของ กศน.ครบทุกรายวิชา แม้การทำงานจะเผชิญปัญหาและอุปสรรคต่างๆ แต่”ครูพันธุ์พิเศษ” ก็สามารถฟันฝ่าไปจนถึงจุดหมายได้อย่างมีคุณภาพ โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในรูปแบบห้องเรียนออนไลน์ หรือ google classroom เพื่อแก้ปัญหาผู้เรียนที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้ไม่สามารถมาพบกลุ่มตามปกติ ให้สามารถเรียนย้อนหลังและสามารถกลับไปทบทวนบทเรียนได้นั้น นับเป็นการแก้ปัญหาเรื่องเวลาให้กับผู้เรียน และเพิ่มประสิทธิภาพในการศึกษา ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าว ทำให้ผลสัมฤทธิ์ของการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ หรือ N-net ในภาคเรียนที่ 2/2562 ของสำนักงาน กศน.จังหวัดสมุทรสาคร เพิ่มขึ้น จากลำดับที่ 9 ของประเทศเป็นลำดับที่ 6 ของประเทศ เป็นการผ่านเป้าหมายขั้นสูง และหากแยกในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ผลสัมฤทธิ์ในการสอบ N-net ได้เป็นลำดับที่ 1 ของประเทศ ซึ่งในการจัดการศึกษาตามหลักสูตรนอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มีคนไทยที่ไม่มีสัญชาติเข้าร่วมเรียนด้วย และการจัดการศึกษาในลักษณะห้องเรียนออนไลน์นี้ ยังจะดำเนินการต่อเนื่องในภาคเรียนที่ 1/2563 นี้ เพื่อใช้แก้ปัญหาในสถานการณ์วิกฤตจากโรคไวรัสโควิด - 19 ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ได้ตรวจเยี่ยมบริเวณโดยรอบดังกล่าวพบว่าอาคารหอพัก และบ้านพักครู มีสภาพชำรุดทรุดโทรมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีอายุการใช้งานมากว่า 40 ปี ซึ่งจะได้หาแนวทางในการช่วยเหลือต่อไป ”
สำหรับการเยี่ยมชมห้องสมุดประชาชน "เฉลิมราชกุมารี" อำเภอเมืองสมุทรสาคร ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศธ.ได้กล่าวว่า “ การจัดกิจกรรมของห้องสมุด ด้านการส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ที่ทันสมัย พบว่าตอบสนองความต้องการของคนในพื้นที่ และได้ความร่วมมือร่วมใจของท้องถิ่นเป็นอย่างดี รวมทั้งความกรุณาของท่านเจ้าพระครู สาครสีลคุณ เจ้าอาวาสวัดคลองครุ ที่อนุญาตให้ใช้ที่ดินของวัดคลองครุ จำนวน 1 ไร่ พร้อมบริจาคทุนทรัพย์และศรัทธาจากประชาชน เพื่อสร้างอาคารห้องสมุด จำนวน 3.7 ล้านบาท และมอบให้เป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าความรู้ของประชาชน ในความดูแลของ กศน.อำเภอเมืองสมุทรสาคร ตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา ซึ่งถือว่าเป็นฐานของการมีส่วนร่วมที่เข้มแข็งและสำคัญยิ่ง ดังนั้นขอให้ทุกท่านที่เกี่ยวข้องมุ่งมั่นขับเคลื่อนตามนโยบาย กศน. WOW ในการพัฒนาไปสู่ห้องสมุดที่มีชีวิต พร้อมก้าวสู่ Digital Library อย่างรอบด้าน เพราะด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองสมุทรสาครที่เหมาะสม สามารถเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้า ส่งเสริมการอ่าน การเรียนรู้ของประชาชนได้อย่างเข้มแข็ง และขอให้ร่วมเป็นเครือข่ายการพัฒนาห้องสมุดประชาชน "เฉลิมราชกุมารี" อำเภอกระทุ่มแบน และอำเภอบ้านแพ้ว ไปด้วยกัน เพื่อขยายสู่การยกระดับห้องสมุดให้เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับคนทุกช่วงวัยของสมุทรสาครต่อไป"
จากนั้น ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศธ.ได้เดินทางไปยังศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาสมุทรสาคร อำเภอเมืองสมุทรสาคร โดยมีนายสุรศักดิ์ ผลยังส่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร และนางสาวสุกัญญา ทรัพย์มณี ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาจังหวัดสมุทรสาครให้การต้อนรับ พร้อมนำชม การพัฒนาปรับปรุงสถานที่ตามนโยบายกศน wow wow ที่ทางศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาฯ ได้ดำเนินการปรับปรุงสถานที่ในช่วงวิกฤตของการแพร่ระบาดของ โรคโควิด-19 เพื่อรองรับการเปิดภาคเรียน1/2563 ในวันที่ 1 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ โดยมีการปรับปรุงสถานที่ภายในให้มีความร่มรื่น รองรับการเปิดให้บริการใหม่อีกทั้งปรับปรุงพื้นที่ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตลอดจนการให้บริการหน้ากากอนามัยเฟสชิล และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือสำหรับบริการตามจุดต่างๆ สำหรับบริการผู้ที่มาใช้บริการ
นอกจากนี้ยังได้รับความอนุเคราะห์จากภาคเอกชนในการบริจาคสีทาอาคารเพื่อพัฒนาภูมิทัศน์ ตลอดจนการปรับปรุงนิทรรศการให้มีความสอดคล้องกับการเรียนรู้ตามบริบทของพื้นที่มากขึ้น อาทิเช่น ฐานพยากรณ์อากาศ ฐานประมงชายฝั่ง ฐานการเรียนรู้ป่าชายเลน ฐานการเรียนรู้แคนตัสพืชทนแล้ง ฐานพยากรณ์อากาศ และวิถีประมงพื้นบ้านนิทรรศการดาราศาสตร์ให้มีความทันสมัยและเหมาะสำหรับพื้นที่ชายฝั่งอ่าวมหาชัย เป็นต้น โดยนอกจากฐานเรียนรู้เพื่อการศึกษาแล้ว ยังจัดให้มีการปรับพื้นที่ปลูกแคนตัส เพื่อให้ความรู้แก่เด็ก และประชาชน ให้สามารถนำไปขยายพันธุ์เพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ รวมถึง มีพื้นที่จำลองในการทดลองปลูกพืชด้านการเกษตร ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างครบวงจร
ดร.กนกวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า "การเดินทางมาครั้งนี้ ตั้งใจมาเพื่อให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานในการเตรียมการเปิดให้บริการแก่เด็ก เยาวชน และประชาชนในพื้นที่และละแวกใกล้เคียง เพื่อปลุกศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาฯ ให้มีชีวิต หลังวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งถือว่าที่นี่สามารถจัดแสดงนิทรรศการด้านวิทยาศาสตร์อย่างสมดุล กลมกลืนกับสภาพของพื้นที่ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นศูนย์การเรียนรู้ป่าชายเลน โดยมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ พันธุ์พืช และสิ่งมีชีวิตต่าง ๆที่น่าสนใจ และที่สำคัญคือ ได้ดำเนินโครงการแก้มลิง ตามพระราชดำริอีกด้วย นับว่าเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีคุณภาพ และมีความน่าสนใจอันเป็นองค์ประกอบสำคัญของการจัดการเรียนรู้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจด้านวิทยาศาสตร์ให้กับประชาชนทุกช่วงวัยได้อย่างแท้จริง " รมช.ศธ. กล่าว
ข่าว : เอื้อมพร สุเมธาวัฒนะ
ภาพ : ปรานี บุญยรัตน์ ณัฐวุฒิ วากะดวน!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น